กรมทางหลวงชนบท จับมือ กรมการขนส่งทางบก ตรวจเข้มและให้ความรู้การดูแลเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันและลดฝุ่นละออง PM 2.5 พบผ่านเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด 57 คัน
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ตรวจค่ามลพิษควันดำ ตรวจวัดค่าควันไอเสีย (ควันดำ) ของเครื่องจักรกลและยานพาหนะ ณ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 7 (อุบลราชธานี) และหมวดบำรุงทางหลวงชนบทอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยได้นำรถเข้าตรวจ จำนวน 27 คัน ซึ่งผลปรากฏว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด
ล่าสุด แขวงทางหลวงชนบทอุบลราชธานี นำเครื่องจักรกล และยานพาหนะ ที่ใช้ปฏิบัติงานเข้าตรวจวัดค่าไอเสีย (ควันดำ) เพื่อป้องกันการเกิดเขม่าควัน ฝุ่นละออง อันก่อให้เกิดผลเสียมลภาวะทางอากาศ PM 2.5 โดย สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี นำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจและวัดค่าไอเสีย (เขม่าควันดำ) ซึ่งมีเครื่องจักรกล และยานพาหนะเข้ารับการตรวจสอบทั้งสิ้นรวม 30 คัน ซึ่งการตรวจวัดผ่านตามเกณฑ์ค่ามาตรฐานเช่นเดียวกัน
สำหรับการตรวจควันดำนั้น เป็นไปตามนโยบายของ คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ห่วงใยประชาชนและให้ความสำคัญกับเรื่องฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายต่อคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งให้รณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามข้อสั่งการของ คุณปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ที่ให้หน่วยงานในสังกัดกรมทางหลวงชนบททั่วประเทศ ช่วยกันดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักรกล ยานพาหนะให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา เพื่อป้องกันปัญหาทางมลภาวะทางอากาศ PM 2.5
นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ การตรวจสอบเครื่องยนต์เป็นประจำ หากกรณีที่รถคันใดตรวจไม่ผ่านเกณฑ์กำหนด ให้สามารถนำรถกลับมาตรวจอีกครั้งได้ โดยมาตรฐานค่าควันดำกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 50 (เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องมือวัดควันดำระบบกระดาษกรอง) หรือไม่เกินร้อยละ 45 (เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องมือวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง) โดยทำการตรวจวัดค่า 2 ครั้ง ซึ่งค่าควันดำจะต้องมีความแตกต่างกันน้อยกว่าร้อยละ 5 โดยใช้ค่าสูงสุดที่วัดได้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินพิจารณา ซึ่งรถยนต์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะถูกติดสติ๊กเกอร์ห้ามใช้รถชั่วคราวหรือห้ามใช้โดยเด็ดขาด และให้นำรถส่งไปแก้ไขให้เครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ตามมาตรฐานภายในกำหนด 30 วัน