ส่งออกของตุรกีไป รัสเซียในเดือนมิถุนายนคิดเป็นมูลค่า 791.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม ที่ 519 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติของเดือนเดียวกัน เมื่อปี พ.ศ. 2553 โดยสินค้ายอดนิยม ได้แก่ ผลไม้และผลเบอร์รี่ของตุรกี เช่น ลูกพีชและเชอร์รี่ นอกจากนี้ก็เป็นเครื่องจักร อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขณะที่การส่งออกจากญี่ปุ่น เวียดนาม ไทย มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ลดลงอย่างมาก
การส่งออก
ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ได้มาถึงระดับรัฐบาลของรัสเซียแล้ว โดยรองนายกรัฐมนตรี Andrei Belousov ได้จัดประชุมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหามาตรการเพื่อขจัดปัญหาการขาดแคลนที่อาจ เกิดขึ้นในตลาดคอนเทนเนอร์เนื่องจากมีสายการเดินเรือ ต่างชาติหลายรายยุติการทำธุรกิจกับรัสเซีย
จากการประกาศใช้มาตรการ Low Sulphur Fuel Surcharge (Emission control) ของ IMO โดยกำหนดให้เรือขนส่งสินค้าต้องใช้น้ำมันที่มีค่า Sulfur ไม่เกิน 0.05% ในเขตชายฝั่ง 12 ไมล์ทะเล และค่า Sulfur ไม่เกิน 0.5% ในเขตน่านน้ำสากล ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก่อให้เกิดต้นทุนค่าขนส่งและต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับอุปทานยังมีไม่เพียงพอ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ช่วยลดค่าการปล่อยมลพิษขึ้นสู่อากาศ หรือ Scrubber ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง เช่นกัน ซึ่งประกาศของ IMO จะมีผลบังคับใช้ในปี 2562