สมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัดเดินหน้าทวงถามคมนาคม เร่งปลดล็อครถตู้หมดอายุในวันที่ 31 มี.ค. นอกจากนั้นโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ผู้โดยสารน้อยลงอย่างมาก วอนคมนาคมช่วยเหลือเบื้องต้น
นายปรีดา มากมูลผล นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด พร้อมผู้ประกอบการรถตู้ และสมาชิกทุกกลุ่ม 52 เส้นทางกว่า 50 คน ได้ร่วมแถลงทวงถาม “คมนาคม-ขนส่งฯ” เรื่องแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะต่างจังหวัด
นายปรีดา มากมูลผล นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด เผยว่า จากการที่ทางสมาคมฯได้เคยเข้ายื่นหนังสือ มายัง รมว.คมนาคม เรื่องความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะต่างจังหวัด เพื่อให้รับทราบปัญหาของสมาคมธุรกิจ รถตู้โดยสารต่างจังหวัด เมื่อวันที่ 6 ส.ค.62 จนถึงวันที่ 9 มี.ค.63 เป็นเวลา 8 เดือนเต็ม ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่สมาคมฯ ได้เสนอมาแล้วนั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้แต่เรื่องเดียว
นายปรีดา กล่าวต่อว่า จึงขอเร่งรัดให้ช่วยเหลือปลดล็อครถที่หมดอายุต่อภาษีแล้วและมี พ.ร.บ.ประกันภัยครบทุกอย่าง และรถตู้หมวด 2 ที่ใกล้จะหมดอายุการใช้งานจาก 10 ปี ในวันที่ 31 มี.ค. นี้ จำนวน 1,700 คัน ใน 52 เส้นทาง ขอวิ่งชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะมีการพิจารณาการต่ออายุรถตู้ จาก 10 ปี เป็น 12 – 15 ปี เพราะขนาดนี้การลงทุนไม่คุ้มแล้ว เศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ ยังมิหนำซ้ำได้รับผลกระทบจากไวรัสร้ายโควิด-19 ซึ่งต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิ เจล แอลกอฮอล์ เพราะผู้โดยสารลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายมีจำนวนมาก ทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอีก ดังนั้นขอร้องให้ รมว.คมนาคม เพื่อให้ช่วยเหลือเบื้องต้นไปก่อน
สมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด จึงได้รวมตัว ทวงถามคำตอบจากกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก ว่าให้ทางผู้ประกอบการรถตู้ วิ่งต่อหรือไม่ หลังจากมีการร้องขอไปเมื่อ 6 เดือนก่อน โดยมีการยื่นหนังสือทางรัฐมนตรีคมนาคม ที่ผ่านมา การอนุญาตวิ่งรถต่อ ซึ่งเป็นรถตู้ ตัวเดิม ซึ่งทางกรมการขนส่งบกและทางภาครัฐจะให้มีการเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ Mini Bus กันมาแต่ก่อนเมื่อประมาณ 6 เดือน ที่ผ่านมาทางรัฐมนตรีคมนาคม ได้รับหนังสือไว้และให้ทางกรมการขนส่งทางดำเนินการ ตรวจสอบ และดูแลกับกลุ่มรถตู้ทั้งหมด ก่อนให้ต่อทะเบียนโดยเสียค่าใช้จ่าย การตรวจสอบ สภาพรถและภาษีทั้งหมดรวมประมาณ 50,000 บาท ต่อคัน และทุกคนก็ต้องไปทำรถตู้ให้ดูปลอดภัยและใหม่เพื่อสามารถวิ่งได้ไม่มีการปล่อยแบบสภาพโทรมๆทางผู้ประกอบการรถตู้หลายคน จึงได้ทำตามนโยบาย โดยได้ไปซ่อมแซมรถแล้วต่อภาษีเสียเงิน 50,000 บาท รวมทั้ง ตกแต่งภายในทำเบาะใหม่ภายในให้สวยงามเพื่อวิ่งได้เหมือนเดิม แต่ปรากฏว่าทางหน่วยกรมการขนส่งและกระทรวงคมนาคม แจ้งว่าจะมีการแจ้งหนังสือมาให้ ทางสมาคมฯ ทราบมีแต่ก็ยัง ไม่มีการส่งหนังสือมาให้กับผู้ประกอบการรถตู้แต่อย่างใด
จึงได้รวมตัวกันขอความเป็นธรรม และขอความชัดเจน กับ กลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ วิ่งต่อได้ทั่วประเทศโดยในการสมัครใจแต่ละคนที่จะมีการเปลี่ยนรถเป็นมินิบัสเล็กหรือไม่เนื่องจากหลายคนไม่ค่อยมีเงินที่จะไปซื้อรถใหม่และไม่สามารถที่จะรีไฟแนนซ์ได้ ทำให้เกิดหนี้สินเป็นจำนวนมากผู้ตัวแทนประกอบการรถตู้ทั่วประเทศ
อีกทั้ง ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ดำเนินการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างอาชีพให้กับบุคคล ที่มีอาชีพขับรถรับจ้างซึ่งมีรายได้น้อยอยู่แล้ว และยังเป็นการเพิ่มความสะดวกและลดเวลาให้กับประชาชนในพื้นที่ที่จะมาใช้บริการในการเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามหากกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก ไม่รีบดำเนินการให้ ทางสมาคมฯ จะเตรียมนำรถตู้ มาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อมาติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้สมาชิกในสมาคมมีรถตู้ ทั้ง หมวด 2 และ หมวด 3 วิ่งให้บริการระหว่างจังหวัดกว่า 1 หมื่นคันทั่วประเทศกำลังเดือดร้อนหนักและหากยังไม่ได้รับการแก้ไขทำให้รถตู้ที่หมดอายุการใช้งานหายไปจากระบบจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชนได้ นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด กล่าว