กรมการขนส่งทางราง ได้ออกประกาศให้ผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ภายหลังจากได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร และมีข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศและข้อกำหนดดังกล่าวให้ผู้ให้บริการขนส่งทางรางในท้องที่เขตกรุงเทพฯ ปฏิบัติดังนี้
1.เพิ่มความเข้มข้นและยกระดับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา
2. ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และระบบสื่อสารให้ใช้งานได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งตรวจสอบอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ให้มีความพร้อมในการใช้งาน รวมทั้งเตรียมการด้านการอพยพผู้โดยสารในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
3.เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบกระเป๋า สัมภาระของผู้ใช้บริการก่อนเข้าใช้บริการระบบขนส่งทางรางรวมทั้งชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นแก่ประชาชน
4.จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบนสถานีอย่างเพียงพอ และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเดินทางพร้อมกับผู้โดยสารในขบวนรถ
5.ประชาสัมพันธ์ แนะนำแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยทั้งภายในสถานีและขบวนรถเพื่อให้ประชาชนทราบ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือพบสิ่งของที่วางไว้โดยไม่มีผู้ครอบครองให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีทราบ
6.ประสาน ให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่
รวมทั้งให้ผู้โดยสารปฏิบัติดังนี้
- โปรดให้ความร่วมมือในการตรวจกระเป๋า สัมภาระกับเจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่งทางราง และปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเจ้าหน้าที่
- ให้ความร่วมมือแก้เจ้าพนักงานที่ปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ ๓๖/๒๕๑๖ แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้ารับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
- แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่งทางราง เมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือพบสิ่งของที่วางไว้โดยไม่มีผู้ครอบครอง
ประกาศ ณ วันที่ 15 ต.ค. 2563
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางราง