บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัดในเครือ สุภัทรา กรุ๊ป ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยามานานกว่า 100 ปี เปิดให้บริการเรือด่วนปรับอากาศ “ริว่า เอ็กซ์เพรส” (Riva Express) รายแรกบนแม่น้ำเจ้าพระยา ยกระดับบริการเชื่อมประสานระบบคมนาคมจากเรือสู่ราง สามารถชำระค่าโดยสารผ่านบัตรแรบบิทการ์ด (Rabbit Card) ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเดินทางสะดวกง่ายดายขึ้น
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การพัฒนาระบบขนส่งและการจราจรทางน้ำเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม ตามแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560-2564 ที่ต้องการให้มีการจัดการคมนาคมขนส่งให้ทั่วถึงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และบูรณาการระบบขนส่งทุกประเภทให้เชื่อมโยงทั่วถึงกันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งการเปิดให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาปรับอากาศ หรือ เรือด่วนติดแอร์ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของการเชื่อมต่อจากเรือสู่ราง ที่จะช่วยเติมเต็มระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพและมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
โดยหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม คือ การเพิ่มความสำคัญในการคมนาคมขนส่งทางน้ำและทางรางให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นการขนส่งที่มีต้นทุนต่ำ ใช้พลังงานน้อย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การผลักดันการคมนาคมเชื่อมต่อระบบน้ำและระบบรางในครั้งนี้ จึงเป็นการยกระดับการคมนาคมขนส่งภายในเมืองให้มีประสิทธิภาพ มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนสามารถใช้เรือโดยสารเพื่อเชื่อมต่อการจราจรจากเรือสู่รางผ่านบีทีเอส ที่ท่าเรือสะพานตากสินเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้
ด้าน นางสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ประธานกรรมการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวว่า ในปี 2563 นี้ ได้เปิดให้บริการเรือด่วนปรับอากาศ “ริว่า เอ็กซ์เพรส” เป็นรายแรกของประเทศไทยจำนวน 4 ลำ เพื่อเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งทางน้ำกับการขนส่งทางราง โดยมีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบัตรแรบบิทการ์ด เป็นพันธมิตรในการให้บริการครั้งนี้ โดยเรือด่วนปรับอากาศ “ริว่า เอ็กซ์เพรส” เป็นก้าวใหม่ของบริษัทเพื่อยกระดับบริการเรือด่วน ให้มีความทันสมัยสะดวกรวดเร็วตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการรูปแบบการเดินทางที่สะดวกสบายประหยัดเวลา และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับเรือทั้ง 4 ลำนี้ เป็นเรือคาตามารัน (Catamaran) แบบลำตัวคู่ออกแบบโดยบริษัท ชเวทซ์ ดีไซน์ (Schwetz Design) บริษัทออกแบบเรือชั้นนำของโลกจากออสเตรเลีย ต่อประกอบในประเทศไทย ตัวเรือทำด้วยอลูมิเนียมมีน้ำหนักเบา มีความยาว 23.9 เมตร กว้าง 7 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 200 คน ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 350 แรงม้า จำนวน 2 เครื่อง ออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีน้ำหนักเบา ไม่โยกโคลง ไม่ก่อให้เกิดคลื่น ปราศจากเสียงรบกวนและสามารถทำความเร็วได้เทียบเท่ารถไฟฟ้า แต่มีความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยเช่นระบบจีพีเอส (GPS : Global Positioning System) จอภาพแอลอีดี ระบบปรับอากาศ และระบบกระจายเสียงที่ทันสมัย
ทั้งนี้เรือด่วนปรับอากาศ “ริว่า เอ็กซ์เพรส” จะเปิดให้บริการประชาชนในวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 อัตราค่าโดยสาร 50 บาทตลอดระยะทาง ในช่วงแรกที่เปิดให้บริการจะลดราคาพิเศษเหลือเพียง 30 บาทตลอดระยะทาง โดยเรือจะเปิดให้บริการระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ ในช่วงเช้าจะวิ่งตั้งแต่เวลา 6.20 – 8.30 น. ในเส้นทาง นนทบุรี-สาทร โดยเรือจะออกทุก 20 นาที และจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร 8 ท่าเรือ ส่วนในช่วงเวลา 9.45 – 16.15 น. จะเน้นจอดท่าเรือที่เชื่อมต่อกับระบบรางในเส้นทางสาทร-บางโพ จำนวน 7 ท่าเรือได้แก่ 1.ท่าเรือสาทร (BTS สถานีสะพานตากสิน) 2.ท่าเรือไอคอนสยาม 3.ท่าเรือราชวงศ์ 4.ท่าเรือราชินี (MRT สถานีสนามไชย) 5.ท่าเรือพรานนก 6.ท่าเรือเทเวศร์ และ 7.ท่าเรือบางโพ (MRT สถานีบางโพ) ส่วนช่วงเย็นเวลา 17.30 – 19.30 น. จะวิ่งรับส่งผู้โดยสารกลับจากสาทร-นนทบุรี โดยจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร 8 ท่าเรือ
ขณะที่ นางสาวรัชนี แสนศิลป์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (บีทีเอส) กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส 8 แสนเที่ยวต่อวัน การเปิดให้บริการเรือด่วนปรับอากาศ “ริว่า เอ็กซ์เพรส” จึงช่วยเติมเต็มการคมนาคมขนส่งให้คนกรุงเทพเดินทางได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ลูกค้าของบีทีเอสจะได้รับความสะดวกสบายจากการใช้บริการแบบเรือต่อราง เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลา นอกจากนี้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ใช้งานบัตรแรบบิทการ์ดยังสามารถนำบัตรแรบบิทการ์ดมาใช้บริการเรือโดยด่วนติดแอร์ได้ทันที โดยระบบจะหักค่าโดยสารและแสดงมูลค่าคงเหลือในบัตรให้ผู้โดยสารทราบ
: มุมมืด