นายสุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิปป๊อป จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวระบบเก็บเงินปลายทาง (COD Gateway) ว่า “ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยปี 2562 มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจ โลจิสติกส์ในประเทศเติบโตสูงขึ้นตามไปด้วย มีผู้บริโภคกว่า 65% ชอบระบบเก็บเงินปลายทางที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้จากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
จากข้อมูลของ Electronic Transaction Development Agency หรือ ETDA ระหว่างปี 2559 – 2562 พบว่าคนไทยมีอัตราการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตมากถึง 4.2 ชั่วโมงต่อวัน และกว่า 11 ล้านคนทั่วประเทศ นิยมซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งติดโผเป็น 1 ใน 5 อันดับกิจกรรมยอดนิยมทางอินเตอร์เน็ต ด้วยการเติบโตของธุรกิจ E-commerce ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจไปรษณียภัณฑ์และการรับส่งสินค้ามีการขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ธุรกิจไปรษณียภัณฑ์และรับส่งสินค้า มีมูลค่ากว่า 27,200 ล้านบาท ขยายตัวขึ้น 5.2 %, ปี 2560 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 28,100 ล้านบาท ขยายตัว 8.7 % และในปี 2561 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 31,300 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 11.3 % นับเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโต และส่งผลให้บริษัทขนส่งชั้นนำจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนเปิดบริการรับส่งพัสดุในประเทศไทยมากขึ้น และมีแผนพัฒนาการบริการทั้งการขยายพื้นที่เข้ารับ-จัดส่ง การเปิดให้บริการไม่มีวันหยุด รวมทั้งพัฒนาความเร็วในการเข้ารับและจัดส่ง เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของผู้ที่ใช้บริการขนส่งในปัจจุบัน โดยหนึ่งในรูปแบบที่บริษัทขนส่งหันมาให้บริการกันมากขึ้น คือ ส่งของแบบเก็บเงินปลายทางที่กำลังได้รับความนิยม
ด้วยเหตุนี้ ชิปป๊อปจึงพัฒนาระบบ COD Gateway ระบบที่รวบรวมบริการเก็บเงินปลายทางของขนส่งเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยให้ผู้ใช้งานได้เปรียบเทียบราคาและพื้นที่การให้บริการ และเลือกใช้งานระบบทุกขนส่งได้ในที่เดียว ตอบสนองความต้องการของผู้ค้าออนไลน์ และลดปัญหากวนใจต่างๆ ด้วยบริการที่ครอบคลุมทั้งการเปรียบราคาการขนส่งแบบเก็บเงินปลายทาง การตรวจสอบพื้นที่ให้บริการของระบบขนส่งแต่ละเจ้า การชำระเงินค่าขนส่งผ่านระบบออนไลน์ที่สามารถออกหมายเลขพัสดุให้ทันที ระบบขนส่งที่สามารถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน หรือส่งพัสดุ ณ ที่ทำการไปรษณีย์โดยไม่ต้องต่อแถว รวมถึงสามารถติดตามสถานะทุกระบบการขนส่งได้ในที่เดียว ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกการขนส่งได้ตามความต้องการได้ด้วยตัวเอง ทำให้สะดวก รวดเร็ว คุ้มค่าและเหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจที่สุด ผ่านพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ของเรา อาทิ ไปรษณีย์ไทย แฟลช เอ็กซ์เพรส เอสซีจี ยามาโตะ เอ็กซ์เพรส และซีเจ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย)”