จากกรณีที่กรมการขนส่งทางบก ขานรับนโยบายรัฐมนตรีใหม่คมนาคม เตรียมดัน แกร็บ (Grab) ถูกกฎหมาย พร้อมตั้งทีมกฎหมายกำหนดเงื่อนไข-แก้ พ.ร.บ.การขนส่งนั้น ได้มีกระแสจากทั้งสองฟากฝั่งถึงความเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม
ล่าสุด ศ.ดร.เอกชัย สุมาลี มหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค ได้เขียนประเด็น Grab ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Agachai Sumalee เพื่อสะท้อนมุมมองในเชิงวิชาการ และเป็นเหตุเป็นผลให้หันมาฉุกคิดกันว่า จะดีต่อประชาชนหรือปลอดภัยหรือไม่? โดยมีประเด็น ดังนี้
ประเด็น Grab คงต้องให้ข้อคิดดังนี้ครับ
1) ใช้ Grab หรือ App อื่นๆ เรียกแท็กซี่ที่เป็นแท็กซี่ธรรมดา และ คิดค่าบริการตามมิเตอร์บวกกับค่าเรียกบริการผ่านแอพ ทำได้ไม่ผิดกฎหมายอะไร ควรสนับสนุนด้วย
2) ใช้ แอพ เรียกรถมารับโดยเป็นรถที่เป็นรถธรรมดา มารับและคิดค่าโดยสารกันเอง ผิดกฎหมาย อันนี้ที่เรียกร้องที่อยากทำให้ถูกกฎหมายกัน ทำได้ครับแต่มีสองกรณีครับ
– กรณีที่ 1 ทางผู้ให้บริการ มีแนวโน้มที่ยอมเชื่อมข้อมูลผู้ขับขี่ (สามารถระบุคนขับได้) กับภาครัฐ และกรอบราคาค่าโดยสารเป็นไปตามกำหนดของรัฐ พร้อมกับระดับการให้บริการ กรณีนี้น่าจะเดินไปมากที่สุด แต่สิ่งที่จะเกิดคือ แท็กซี่ธรรมดาหันมาเข้าระบบนี้ แท็กซี่ที่สามารถโบกขึ้นได้เลยลดลงไปเรื่อยๆ (ก็โอเคนะเพราะปัจจุบันเราก็บ่นอยู่แล้วว่าโบกแล้วไม่ค่อยไป)
– กรณีที่ 2 เปิดเสรีเลย ไม่ต้องแจ้งข้อมูลอะไรกับรัฐเลย ค่าโดยสารไปกำหนดกันเอง เพราะระบบเอกชนที่บอกว่าเช็คมาแล้วและดีกว่าของรัฐอยู่แล้ว สิ่งที่อาจจะเกิดคือ ราคาค่าโดยสารลอยตัว อาจมีผู้ให้บริการที่ไม่ใช่แค่ Grab เกิดขึ้น เราจะคุมความปลอดภัยยังไงถ้าขนาดบริษัท/เงินทุน/ความเข้มงวด ไม่ดีเท่ารายใหญ่ แบบนี้กลุ่มวิ่งให้บริการที่ปัจจุบันเถื่อน ก็ถูกกฎหมายหมดหรือไม่
กรณีแรกเป็นแบบที่หลายๆ เมืองทำกันนะครับที่เราบอกว่าหลายๆ ที่ทำได้ เช่น นิวยอร์ก สิงคโปร์ กรณีที่สองนี่เป็นแบบที่เอกชนอยากได้แน่นอน แต่ความเสี่ยงก็ที่ผมเขียนไว้ เราอาจจะเถียงกันว่าเพราะแท็กซี่ไม่ดีเราเปิดแบบนี้เลยดีกว่า ก็ตัองคิดดีๆ ครับ จริงๆ แล้วแบบที่หนึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ อังกฤษมีแท็กซี่สองแบบคือแบบที่รับคนโบกได้ กับแบบที่รับคนจากศูนย์ (เมื่อก่อนเป็นศูนย์โทรศัพท์ ตอนนี้ก็ใช้แอพได้) ก็แยกตลาดไป แท็กซี่โบกก็จะลดลงเรื่อยๆ วิ่งในพื้นที่ใจกลางเมืองเป็นหลัก ราคาสูงขึ้น แท็กซี่ศูนย์ก็วิ่งรับคนในตรอก/ซอย ชานเมือง ราคาก็อีกอัตรา ลองช่วยกันคิดครับว่าอะไรจะเกิดก่อนเกิดหลัง
ราคาแท็กซี่ปัจจุบันของไทยถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เราควรมองแท็กซี่เป็นบริการขั้นพื้นฐานที่ต้องตรึงราคาหรือไม่ หรือ ควรปล่อยเพดานราคา เราควรเปิดให้รถส่วนตัวให้บริการเลยหรือไม่ ถ้าเกิดเหตุเจ้าของระบบ/แอพก็รับผิดชอบทางกฎหมายไป เกิดแอพเล็กๆ น้อยๆ ผลุดขึ้นมาแล้วไม่รับผิดชอบเราจะทำกันยังไง ถ้าเราขมวดประเด็นพวกนี้ได้ก็ทางเปิดโล่งสำหรับบริการแบบใหม่ที่เป็นธรรมกับประชาชนครับ
…ฟันเหล็ก