หลังสถานการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันล้นตลาดในประเทศไทย กระทรวงพลังงานจึงมีนโยบายเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวด้วยการส่งเสริมให้มีการใช้ไบโอดีเซลมากขึ้น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTORได้ตอบรับนโยบายด้วยการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ซึ่งมีไบโอดีเซลเป็นอัตราส่วนร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน หรือ B7 ที่มีไบโอดีเซลเป็นอัตราส่วนร้อยละ 7
นิยาม
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 คือน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซล หรือน้ำมัน B100 เป็นอัตราส่วนประมาณร้อยละ 20 โดยปริมาตร ไบโอดีเซล เป็นเชื้อเพลิงดีเซลที่ผลิตจากแหล่งทรัพยากรหมุนเวียน เช่น ปาล์มน้ำมัน ไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิงดีเซลทางเลือก นอกเหนือจากน้ำมันดีเซลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หรือน้ำมัน B7 คุณสมบัติสำคัญของไบโอดีเซลคือสามารถย่อยสลายได้เองตามกระบวนการชีวภาพในธรรมชาติ และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ B20 จะมีโอกาสปนเปื้อนกับน้ำมันหล่อลื่นสูงกว่า B7 ซึ่งเป็นสาเหตุให้น้ำมันหล่อลื่นเสื่อมคุณภาพได้เร็วกว่าปกติ
ข้อแนะนำการใช้งานน้ำมันหล่อลื่น
การเลือกใช้
จากปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิง B20 มีแนวโน้มการปนเปื้อนกับน้ำมันหล่อลื่นในอัตราที่สูงกว่า B7 นั้น น้ำมันหล่อลื่นที่ใช้จึงต้องมีคุณภาพสูงพอที่จะสามารถต้านทานการเสื่อมสภาพและรักษาคุณสมบัติการปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี ซึ่งต้องได้มาตรฐาน API CI-4 ขึ้นไปและ ACEA E7 โดย PTT LUBRICANTS ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ DYNAMIC SEMI-SYNTHETIC SAE 15W-40 ให้ความมั่นใจสูงสุดที่มีมาตรฐาน API CI-4 Plus และ DYNAMIC ULTRA PLUS SAE 15W-40 และ SAE 20W-50 ที่มีมาตรฐาน API CI-4 และเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การทดสอบภาคสนามอีกด้วย โดยเบอร์ความหนืด SAE 20W-50 เป็นตัวเลือกที่ช่วยเรื่องการรักษาความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นไม่ให้ต่ำเกินไปจากการปนเปื้อนของ B20 ได้ดียิ่งขึ้น
ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น
ถ้าเดิมรถมีระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นไม่เกิน 20,000 กม. สามารถคงระยะการเปลี่ยนถ่ายเดิมได้ตามปกติ แต่กรณีที่มีการเปลี่ยนถ่ายมากกว่า 20,000 กม. แนะนำให้ปรึกษาผู้ผลิตรถยนต์หรือ PTT Lube Solutions เพื่อหาระยะการเปลี่ยนถ่ายที่เหมาะสม
เหตุผล: ในเครื่องยนต์มีโอกาสที่เชื้อเพลิงบางส่วนที่ไม่ถูกเผาไหม้จะถูกกวาดไปรวมกับน้ำมันหล่อลื่น แต่เนื่องจาก B100 ระเหยยากกว่าดีเซล(มีจุดเดือดสูงกว่า) ดังนั้น B100 จะคงอยู่ในน้ำมันหล่อลื่นโดยไม่ระเหยไป ความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นจะลดลงจนตกเบอร์ความหนืด ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์สึกหรอมากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเร็วขึ้น
การสังเกต: ปกติรถที่ใช้งานในระยะ 20,000 กม.จะมีการเติมพร่องน้ำมันหล่อลื่น หากพบกว่ามีการเติมพร่องสูงขึ้นหรือลดลงผิดปกติ ให้พิจารณาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นและลดอายุการเปลี่ยนถ่ายลงครึ่งหนึ่งในการใช้งานรอบถัดไปและติดต่อ PTT Lube Solutions เพื่อประเมินระยะการเปลี่ยนถ่ายที่เหมาะสมต่อไป
ข้อแนะนำด้านอื่นๆ
ไส้กรอง
ไบโอดีเซลมีความสามารถในการละลายสิ่งสกปรกมากกว่าดีเซล ดังนั้นรถที่เปลี่ยนมาใช้ B20 คราบสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในส่วนต่างๆของขึ้นเครื่องยนต์อาจจะละลายออกมา จึงควรพิจารณาความถี่ของการเปลี่ยนไส้กรองให้บ่อยขึ้นในช่วงแรกและเลือกใช้ไส้กรองแท้ตามคำแนะนำของผู้ผลิต
การสังเกต: หากพบว่าไส้กรองดีเซลที่เปลี่ยนออกมาสกปรกมาก มีคราบโคลน เมือก มีกลิ่นเหม็นที่ไม่ใช่กลิ่นน้ำมัน จำเป็นต้องล้างถังน้ำมันในรถ หรือตรวจสอบน้ำมันในถังก่อนจ่ายลงรถ (ปกติในไส้กรองดีเซลคราบที่ติดจะเป็นจะสีดำละเอียด)
ควรสังเกตปริมาณน้ำในกรองดักน้ำ
หากมีน้ำให้ไขออก ถ้าน้ำมันขุ่นเป็นน้ำนมให้ถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกและเติมน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ เนื่องจาก B20 จะดูดน้ำจากภายนอก การที่มีน้ำในน้ำมันมากจนแยกชั้นออกมาแสดงว่ามีการรั่วของน้ำภายนอกเข้าไป ขณะที่ถังเก็บ ท่อ ตู้จ่าย และระบบต่างๆในรถ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ให้สังเกตท่อยาง ข้อต่อ และปะเก็นต่างๆ หากรั่วซึมต้องเปลี่ยน และท่อน้ำมันให้ใช้ท่อเหล็กปกติ ไม่ให้ใช้ท่อเหล็กชุบสังกะสี (ทั้งกรณี B7 และ B20)
หากต้องการข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนเทคนิคหล่อลื่น ฝ่ายการตลาดและเทคนิคหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2239-7847 หรืออีเมลที่ pttlubricants@pttplc.com