ซีอีโอ NEX ประกาศซื้อหุ้นคืน ให้คำมั่นเดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจ เชื่ออนาคต EV ยังสดใส เผยหุ้นถูก Forced Sell เป็นไอ้โม่งทุบหุ้น เร่งรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องต่อ ก.ล.ต. – DSI หาตัวมาดำเนินโทษ
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาหุ้นของ NEX ที่ปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา และ NEX ได้มีการรายงานการขายหุ้นต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อให้เกิดข่าวว่าผู้บริหาร NEX เทขายหุ้นกว่า 400 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 4.08 บาท ได้เงินไปกว่า 1,759 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขอยีนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด หรือ EA และ NEX ได้มีการแถลงข่าวอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นผลมาจากหุ้นถูก Forced Sell (บังคับขาย) เพราะมีคนมาทุบหุ้น ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ (DSI) เพื่อสอบสวนหาคนที่เข้ามาทุบราคาหุ้นแล้ว
“ที่ผ่านมา NEX ถือเป็นผู้เสียหายโดยตรง เพราะถูก Forced Sell ไปกว่า 400 ล้านหุ้น ถ้าคิดในราคาก่อนหน้านั้นคือ 10 บาท ผมโดนไป 4,000-5,000 ล้านบาท ตอนนี้เหลือเพียง 10 ล้านหุ้น ถ้าจะเทขายก็คงเทขายทั้งหมด และที่สำคัญถ้าจะเทขายจริงก็คงเทขายเมื่อราคา 10-20 บาท ไม่มีเหตุผลที่จะเทขายในวันที่ราคาติดฟลอร์ เมื่อเทียบกันแล้วผมเจ็บหนักไม่แพ้นักลงทุน ในฐานะผู้บริหารแม้จะบาดเจ็บแต่ยืนยันว่าจะสู้ต่อไป และจะขอยืนหยัดอยู่ข้างผู้ถือหุ้นทุกคนเพราะถือว่าเป็นผู้มีบุญคุณกับ NEX ผมจะไม่แก้ตัวแต่จะขอแก้ไขปัญหาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา โดยได้มีการเพิ่มทุนจำนวน 8,800 ล้านบาท เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้โดยไม่มีอุปสรรคหรือมีก็น้อยที่สุด ผมจะขอต่อสู้และนำพาธุรกิจของ NEX ให้ก้าวไปข้างหน้าและสร้างผลกำไรของบริษัทให้เกิดขึ้น ขอให้นักลงทุน รวมไปถึงคู่ค้าและซัพพลายเอร์คลายความวิตกกังวล นี่เป็นคำมั่นสัญญาที่ผมให้ไว้” ซีอีโอ NEX กล่าว
สำหรับแผนการเพิ่มทุนดังกลาวจะนำไปชำระค่าสินค้าให้กับโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) และเป็นเงินทุนสำรองเพื่อลงทุนในธุรกิจที่จะเป็น New S-Curve ให้กับ NEX ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาโครงสร้างการถือหุ้น หากการเจรจาเสร็จสิ้นจะเปิดเผยให้ทราบต่อไป นอกจากนี้จะขยายโรงงานใหม่เพื่อรองรับในส่วนของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เพื่อการผลิต OEM รองรับคำสั่งซื้อใหม่ และที่สำคัญคือจะเข้าไปซื้อหุ้นที่เราสูญเสียทั้งหมดกลับคืนมา อยากให้นักลงทุน และพันธมิตรคู่ค้า เชื่อมั่นว่าบริษัทมีศักยภาพและความแข็งแรงและในการดำเนินธุรกิจให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปีนี้บริษัทตั้งเป้าส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 5,000 คัน และได้เร่งขยายการเติบโตตลาดทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ โดยไตรมาส 1/67 ได้ส่งมอบรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับลูกค้าเกือบ 600 คัน ส่วนไตรมาส 2/67 อาจส่งผลกระทบบ้างเพราะมีปัญหาอย่างที่ทราบกัน แต่ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะมียอดขายรถเป็นจำนวนมาก
ซึ่ง NEX มีแผนเข้าร่วมเสนองานใหม่หลายโครงการ และจะเข้าร่วมประมูลงานยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน ที่มีความสนใจจะนำรถไฟฟ้ามาใช้ในองค์กร ปัจจุบัน NEX มีลูกค้าที่อยู่ในการเจรจาอยู่ประมาณ 137 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทชั้นนำในไทย และล่าสุดก็มีการส่งมอบรถให้กับ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านโลจิส ติกส์ครบวงจร เพื่อส่งเสริม Green Logistics ตามที่ทางบริษัทได้ตั้งเป้าไว้