เมื่อเร็วๆนี้ สถาบัน IMD (Institute of Management Development) ร่วมกับมูลนิธิ Hintech ได้เปิดเผยรายงานการจัด อันดับดัชนีการค้าที่ยั่งยืน (Sustainable Trade Index) โดยสิงคโปร์จัดอยู่ในอันดับที่ 5 ในขณะที่ นิวซีแลนด์เป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยอังกฤษ ฮ่องกง และญี่ปุ่น จากการจัดอันดับดัชนีการค้าโลกของเขตเศรษฐกิจ 30 แห่ง โดยดัชนีดังกล่าววัดความพร้อมผ่านหัวข้อหลักสามอย่าง ได้แก่
(1) เศรษฐกิจ วัดจากเป้าหมายของการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบระยะยาว โดยมีตัวบ่งชี้ที่แสดงให้เห็นถึง ความเชื่อมโยงระหว่างระบบการค้ากับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น คุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานทางการค้าและ ความสะดวกในการดำเนินการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น
(2) สังคมต้องมีการพัฒนาปัจจัยทางสังคมที่เอื้อต่อเศรษฐกิจในการทำการค้าระยะยาว เช่น ระดับ การศึกษา และมาตรฐานแรงงาน เป็นต้น
(3) สิ่งแวดล้อม จะวัดจากการปกป้องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการจัดการปัจจัยภายนอกที่เกิดจาก การเติบโตทางเศรษฐกิจและระบบการค้าโลก เช่น ระดับมลพิษทางอากาศและทางน้ำ เป็นต้น
รายงานยังได้ระบุว่า ประเทศที่อยู่ในอันดับสูงจะเป็นประเทศที่สนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมีอุปสรรคทางการค้าต่ำ และมีโอกาสเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ พลเมืองต่างมีอายุขัย ยืนยาว มีความคิดในการประหยัดพลังงานและคำนึงถึงสภาพอากาศ โลก
ทั้งนี้ สิงคโปร์อยู่อันดับสองในหัวข้อเศรษฐกิจรองจากฮ่องกง อันดับเก้าในหัวข้อสังคมและอันดับสิบในหัวข้อสิ่งแวดล้อม โดยทั้งฮ่องกงและสิงคโปร์ต่างดึงดูดการลงทุนเงินทุน จากต่างชาติและทั้งสองประเทศต่างมีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่พัฒนาเป็นอย่างดี

ศาสตราจารย์ Arturo Bris ผู้อำนวยการสถาบัน IMD World Competitiveness Center1 กล่าวว่า ในปัจจุบัน ทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างผลกระทบของ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมภิบาล) กับแนวปฏิบัติของการค้าโลก ซึ่งบางประเทศพึ่งพาการเติบโตของเศรษฐกิจจากการส่งออก แต่เพื่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันและการสร้างผลกำไร ส่งผลให้พวกเขามองข้ามวัตถุประสงค์ทางด้าน ESG
ในขณะที่บางประเทศต้องใช้มาตรการกีดกันทางการค้า (Protectionism) และหลีกเลี่ยงการค้าโลกเมื่อเผชิญกับ ความท้าทายจากสิ่งแวดล้อมและสังคม อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์เป็นประเทศที่พึ่งพาการค้าโลกในรูปแบบการแข่งขันทางการค้า เปิดกว้างทางเศรษฐกิจ และมีการค้าที่เสรี ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากสิงคโปร์อยู่ในดับดับที่สองในหัวข้อเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันยังรักษามาตรฐานที่เหมาะสมในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดในมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในอนุสัญญา ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพการค้า การบำบัดน้ำเสีย นโยบายการกำหนดราคาและการชดเชยคาร์บอนที่มี ประสิทธิภาพ
แหล่งที่มา : StraitsTimes : www.straitstimes.com/business/s-pore-ranks-5th-out-of-30-economies-inindex-on-sustainable-trade BusinessTimes : www.businesstimes.com.sg/government-economy/singapore-ranks-5th-in-newindex-tracking-sustainable-global-trade-practices Hinrich Foundation: https://research.hinrichfoundation.com/hubfs/STI%202022/20221107%20- %20STI%202022%20-%20Press%20Release%20FINAL.pdf
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์//