“กรมเจ้าท่า” แจงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน จ.ชลบุรี ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2563 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ย.2565 ล่าสุดส่งมอบพื้นที่แล้วกว่า 800 เมตรและระยะที่ 2 ปีงบประมาณ 2566 – 2568 ระยะทาง 3 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ย. 2568 มั่นใจเพิ่มโอกาสสร้างงาน–อาชีพ กระตุ้นการท่องเที่ยวชลบุรี บูมเศรษฐกิจไทยตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ กล่าวว่า หลังจากที่ส่งมอบพื้นที่ชายหาดให้กับเทศบาลตำบลนาจอมเทียนระยะทาง 800 เมตร ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 จากโครงการก่อสร้างเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ระยะที่ 1 งบประมาณปี 2563 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ความกว้าง50 เมตร ตั้งแต่ด้านทิศใต้ของหาดจอมเทียนไปทางทิศเหนือบริเวณบริเวณซอยนาจอมเทียน 11 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ย.2565
การเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ระยะที่ 2 งบประมาณปี 2566 – 2568 เพื่อเสริมทรายชายหาดระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ความกว้าง 50 เมตร จากด้านทิศใต้บริเวณซอยนาจอมเทียน11 (ต่อจากระยะที่ 1) ไปทางทิศเหนือบริเวณแนวโขดหิน หน้าสวนน้ำพัทยาปาร์ควอเตอร์เวิร์ลซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2568
ทั้งนี้ โครงการฯ ดังกล่าวถือเป็นโครงการเร่งด่วน เนื่องจากพื้นที่ชายหาดจอมเทียนประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งรุนแรงและต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 2510-2558 พื้นที่ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปทุกปี หรือประมาณ 60 ไร่ ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน หากปล่อยทิ้งไว้จะไม่เหลือพื้นที่ชายหาดอีกต่อไป ที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินการสำรวจออกแบบเพื่อเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน ตลอดแนวชายหาดจอมเทียน ความยาว 7 กิโลเมตร จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เงิน 1 บาทที่ลงทุน สามารถสร้างผลตอบแทนกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ถึง 3.2 บาท และยังสร้างผลตอบแทนทางอ้อมซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นตัวเงินได้
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมายังได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการฯ จำนวน 3 ครั้ง โดยครั้งที่หนึ่งจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2558 เพื่อเสนอแนะความเป็นมาและความจำเป็นของโครงการฯ โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการฯ และในครั้งที่สองจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2558 เพื่อนำเสนอรูปแบบการเสริมทรายฯ และขอบเขตการศึกษาโครงการฯ ซึ่งมีผู้เห็นด้วยกับแนวทางการแก้ไขปัญหาของโครงการฯร้อยละ 96.8 และครั้งที่ 3 ช่วงเดือนกันยายน 2559 นำเสนอข้อมูลผลการศึกษาของโครงการฯ ซึ่งร้อยละ 84.2 ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม ให้ความเห็นว่ามาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ได้นำเสนอในรายงานมีความเพียงพอสำหรับการลดผลกทระทบที่จะเกิดขึ้นกับการก่อสร้างโครงการฯ
นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดประชุมกลุ่มย่อย โดยครั้งแรกจัดขึ้นในดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นว่าจะช่วยทำให้ชายหาดจอมเทียนกลับมามีสภาพที่สวยงาม และมีพื้นที่สาธารณะให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรม และในครั้งที่สองจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2558 โดยร้อยละ 100 ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาของโครงการฯ
ทั้งนี้ โครงการฯ ดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2568 จะทำให้หาดจอมเทียนให้กลับมามีสภาพที่สวยงาม ฟื้นฟูและบำรุงรักษาระบบนิเวศชายฝั่งทะเลให้กับมามีสภาพสมบูรณ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน และอุตสาหกรรมต่อเนื่องภายใน จ.ชลบุรี และยังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสอดรับกับนโยบายการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี