นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา Smart City ที่ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ ทลฉ. เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการท่าเรืออัจฉริยะ หรือ Smart Port ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการบูรณาการข้อมูลต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งอัจฉริยะด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งหลากหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation) ของการส่งออกและนำเข้าบริเวณ ทลฉ. เนื่องจากเป็นประตูหลักของสินค้านำเข้า – ส่งออกของ EEC และของประเทศไทย ทั้งการขนส่งทางเรือ รถไฟ และรถบรรทุก ให้เกิดการบูรณาการข้อมูลสำหรับผู้เกี่ยวข้อง เพิ่มความสะดวก ความคล่องตัวการบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์ การขนส่งและการจราจร เพิ่มคุณภาพการให้บริการ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ลดปัญหาจราจร มลภาวะ และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้เกี่ยวข้องโดยตรงและชุมชนโดยรอบ
ร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า การบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา Smart City ที่ ทลฉ. ระหว่าง กทท. กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ ทลฉ. เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการท่าเรืออัจฉริยะ หรือเรียกว่า “Smart Port” พร้อมทั้งร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ และผลักดันให้มีการใช้งานจริงอย่างมีประสิทธิภาพ และ กทท. จะร่วมผลักดันนโยบายการบริหารจัดการใช้งานจองคิวรถบรรทุกระบบ Truck Queuing และให้มีการชำระค่าบริการผ่านระบบ Smart Port อีกด้วย
“ท่าเรืออัจฉริยะ หรือเรียกว่า “Smart Port” เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนาการส่งเสริมให้ ทลฉ. ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งอัจฉริยะ (Smart Port) ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งหลากหลายรูปแบบของการส่งออกและนำเข้า ทั้งการขนส่งทางเรือ รถไฟ และรถบรรทุกที่จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพความสะดวก ความคล่องตัวในการบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์ การขนส่งและการจราจรที่ถือเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มคุณภาพการให้บริการ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ในการนำเข้าและส่งออก ลดปัญหาการจราจร มลภาวะ สิ่งแวดล้อม เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง รวมทั้งชุมชนโดยรอบที่พร้อมผลักดันประเทศสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป”