ในช่วง 5 เดือนแรกของ ปี 2565 (ม.ค.-พ.ค.) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ได้จดทะเบียนในกัมพูชา จำนวน 84 คัน จากในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 9 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 800 เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2565
นาย Sun Chanthol รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง เปิดเผยว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้มีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นมากในประเทศกัมพูชา โดยคาดว่า กัมพูชาจะมีจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่รัฐบาลกัมพูชากำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว ปี 2050 เพื่อลด ปริมาณคาร์บอน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยการสนับสนุนให้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และจักรยานยนต์ พลังงานไฟฟ้า
รมต.กระทรวงโยธาธิการและขนส่งของกัมพูชา ยังเชิญชวนให้ชาวกัมพูชาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแทนรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากมีราคาพลังงานไฟฟ้าถูกกว่าและ ปัจจุบันกระทรวงโยธาธิการฯ อยู่ระหว่างร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ และสถาบันที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลายแห่งในกัมพูชา ทั้งเชิญชวนให้นักลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยสามารถติดต่อกรมการขนส่งทางบกกระทรวงโยธาธิการฯ เพื่อตรวจสอบขั้นตอนและติดต่อการไฟฟ้าแห่งกัมพูชา (Electricite Du Cambodge: EDC) เพื่อตรวจสอบคำขอแหล่งจ่ายไฟ
โดยปัจจุบัน การชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในกัมพูชามีค่าใช้จ่าย 4 ดอลลาร์ฯ สามารถเดินทางได้100 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องจ่ายมากกว่า 10 ดอลลาร์ฯ ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปจะหยุดผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในปี 2578 และกัมพูชาต้องเตรียมพร้อมในกรณีที่มีการหยุดผลิตรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งนี้ภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ ร้อยละ 63 ในขณะที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกเก็บภาษีนำเข้า โดยเฉลี่ยร้อยละ 120

จากข้อมูล ในปี2564 กระทรวงโยธาธิการฯ ได้จดทะเบียนยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าไปแล้วทั้งหมด 148 คัน ได้แก่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 110 คัน และจักรยานสามล้อ จักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 38 คัน โดยได้ร่วมมือ กับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(United Nations Development Programme: UNDP) ในการติดตั้ง สถานีชาร์จ (EV) ในกรุงพนมเปญ จังหวัดสีหนุวิลล์จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดเสียมราฐ
นอกจากนี้กระทรวงโยธาธิการฯ ยังได้ร่วมมือกับปั๊มน้ำมัน ได้แก่ Caltex, Total, PTT, Sokimex และ Tela เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จ (EV) และมีการติดตั้งบนทางหลวงแห่งชาติของประเทศ เช่น ทางด่วน พนมเปญ – สีหนุวิลล์และบนทางหลวงสายสำคัญๆ ของประเทศอีกจำนวนมาก
แหล่งที่มา : Phnom Penh Post & Khmer Times
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา