ผู้โภคชาวเยอรมันมีความต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ด้วยราคา น้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามตลาดโลก กอปรกับสถานการณ์สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียยิ่งผลักดัน ให้สินค้าพลังงานมีราคาสูงขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลเยอรมันยังให้การสนับสนุนถึง 9,000 ยูโร สำหรับผู้ที่ต้องการ ซื้อสินค้านวัตกรรม (Innovationsprämie) เช่น รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (Electric Vehicles: EV) รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid electric vehicle: HEV) หรือ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV)
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความยืดเยื้อของสงครามขณะนี้กลายเป็นอุปสรรคในการ จัดหาวัตถุดิบสำหรับสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผู้ผลิตเกรงว่าจะไม่สามารถผลิตและส่งมอบรถยนต์ได้ทัน ตามที่มีการสั่งซื้อจำนวนมาก ความตึงเครียดของสภาวะสงครามขณะนี้ส่งผลให้สายการผลิตรถยนต์บางส่วนต้องหยุดชะงัก เนื่องจากขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์และส่วนประกอบรถยนต์จากยูเครน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สายไฟและ สายเคเบิ้ลต่าง ๆ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะต้องรอสงครามสงบจึงจะกลับมาผลิตได้ตามเดิม
ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่า การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่เสร็จสมบูรณ์จะเกิดความล่าช้ายิ่งขึ้น สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เมื่อรัฐบาลได้กำหนดเงื่อนไขสำหรับผู้ที่จะขอรับเงินสนับสนุนสินค้านวัตกรรม (Innovationsprämie) จะต้องมี การจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ภายในสิ้นปี 2565 ซึ่งจะดำเนินการได้หลังมีการส่งมอบรถเสร็จสิ้นแล้ว เท่านั้น
โดยหลังจากปลายปีนี้ จะมีเพียงเงินสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Umweltprämie) ซึ่งให้ ต่ำกว่า 6,000 ยูโร ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการขอรับได้จนถึงสิ้นปี2568 ทั้งนี้ ปัญหาการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าช้ากว่ากำหนดเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสถานการณ์การแพร่ ระบาดของไวรัสโคโรน่าแล้วเช่นกัน เนื่องจากขาดแคลนชิปซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญ ร่วมกับปัญหาระลอกใหม่จากการขาดแคลนสายไฟจากยูเครน ส่งผลให้ผู้ผลิตและบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถ คาดการณ์ระยะเวลาในการส่งมอบรถยนต์ในอนาคตได้อย่างชัดเจน และเป็นคำถามที่ผู้ซื้อให้ความสนใจเป็น อันดับต้น ๆ

นาย Jochen Scharf กรรมการผู้จัดการของบริษัท Metropol Automobile ในเมือง นูเรมเบิร์ก กล่าวว่า ผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แม้ว่าระยะเวลาการส่งมอบ รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้เวลานานก็ตาม ซึ่งตนมองว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ บริษัท ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บางแห่งได้ให้ความเห็นว่าการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2566 เท่านั้น
โฆษกของสมาคม Auto Club Europa e. V. (ACE) ได้ออกมาชี้แจงว่า รัฐบาลเยอรมันกำลังพิจารณาขยายระยะเวลาให้เงินอุดหนุนผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า โดยสมาคมได้เรียกร้องให้ รัฐบาลเร่งพิจารณาเกณฑ์การให้ความสนับสนุนสำหรับปีถัดไป ซึ่งไม่ใช่เพียงการให้เงินสนับสนุนเมื่อมีการจด ทะเบียนรถยนต์คันใหม่เท่านั้น แต่ยังผลักดันให้เปลี่ยนแปลงเกณฑ์ได้มีสิทธิ์รับการสนับสนุนตั้งแต่วันที่มีการ สั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อในอนาคต อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกลางยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับความสนับสนุนที่ชัดเจนซึ่งควรมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
ที่มา: www.tagesschau.de
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต