บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ยุคถ่านหินขาขึ้น–โลจิสติกส์สดใส ดันผลการดำเนินงานปี 64 ทำสถิติทะลุเป้ามีแนวโน้มแตะ 12,000 ล้านบาท จากเป้าเดิมที่วางไว้ 11,000 ล้านบาท และปริมาณการขายถ่านหินก็ทำยอดได้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ตามเป้า 5.5 ล้านตัน หลังความต้องการใช้ในจีน-อินเดียเพิ่มมากขึ้น ด้านผู้บริหาร “พนม ควรสถาพร” ส่งซิกปี 65 เร่งขยายคลังสินค้า – งานให้เช่าคลังสินค้า ล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญาขนส่งปีหน้าเพิ่ม
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ แบบครบวงจร (ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า) เปิดเผยว่า ภาพธุรกิจถ่านหินในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น จากความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะลูกค้าหลัก อย่างกลุ่มอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ รวมถึงดีมานด์การใช้ถ่านหินที่ยังคงเพิ่มขึ้นในประเทศจีน
ทั้งนี้ จากปัจจัยความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของ AGE ในปี 2564 สามารถสร้างยอดขายถ่านหินจนทุบสถิตินิวไฮ ได้ตามเป้าที่บริษัทได้ประมาณการณ์ไว้ที่ 5.5 ล้านตัน นอกจากความโดดเด่นในธุรกิจจำหน่ายถ่านหินแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า ให้ครบทุกมิติ เพื่อให้ภาพรวมธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ส่งผลในปีนี้ AGE จะมีรายได้รวมจากขายถ่านหินและงานให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร ทะลุเป้าสู่ 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ 11,000 ล้านบาท
โดยในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีการรับรู้รายได้ การให้บริการท่าเรือใหม่ จำนวน 3 ท่า และการให้บริการโกดังสินค้า 5 หลัง ที่บริษัทฯ เข้าไปซื้อสิทธิการเช่ากิจการในช่วงไตรมาส 2/64 และในอนาคตคาดว่าธุรกิจด้านโลจิสติกส์จะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯ เพิ่งเซ็นสัญญาการขนส่งสินค้าทางบกในปี 2565 อีก 200,000 ตัน มูลค่า 38 ล้านบาท และมีสัญญาให้เช่ากองเก็บถ่านหิน มูลค่า 6 ล้านบาท โดยในปี 2564 ตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการโลจิสติกส์ฯ อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้ของการให้บริการบริษัทในเครือที่ 70% และให้บริการกลุ่มลูกค้าภายนอกที่ 30%
บริษัทฯ เตรียมศึกษาแผนการลงทุนในการสร้างคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มเติม จากเดิมที่มีอยู่จำนวน 5 หลัง และการเปิดลานกองเก็บสำหรับให้ลูกค้าที่ไม่มีพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าได้ใช้บริการเช่าพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะเห็นการลงทุนในปี 2565 เพื่อรองรับการขยายการให้บริการด้านโลจิสติกส์ในระยะยาว เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้รับการประกาศให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนประจำปี 2564 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยติดต่อกัน 4 ปีซ้อน จึงเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างแท้จริง