นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า วันมาฆบูชา ประจำปี 2564 ตรงกับวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ส่งผลให้มีวันหยุดต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ขสมก.จึงจัดแผนเดินรถ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2564 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง เฉลี่ยวันละ 2,733 คัน จำนวน 21,299 เที่ยว
2. จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 5 เส้นทาง ดังนี้
– สาย A1 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร เฉลี่ยวันละ 21 คัน
– สาย A2 ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉลี่ยวันละ 15 คัน
– สาย A3 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี เฉลี่ยวันละ 9 คัน
– สาย A4 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 9 คัน
– สาย S1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 6 คัน
3. จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ จำนวน 4 สถานี รวม 34 เส้นทาง ดังนี้
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) จำนวน 12 เส้นทาง ได้แก่ 3, 16, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517 และ 536
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ 66, 79, 511, 515, 516 และ 556
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ 2, 23, 25, 71, 72, 501, 508 และ 511
– สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ 4, 7, 21, 25, 34, 73, 73ก และ 501
ในส่วนของมาตรการความปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กำลังประสบปัญหาการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในชั้นบรรยากาศ และการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID – 19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ขสมก. จึงกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด – 19 เพื่อลดผลกระทบและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
1. ตรวจวัดค่าไอเสียรถโดยสารเครื่องยนต์ดีเซล ก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน กรณีตรวจพบรถโดยสารมีค่าไอเสียเกิน 35 % จะส่งเข้าซ่อมบำรุงโดยทันที
2. ขอความร่วมมือบริษัทเหมาซ่อมบำรุงรักษารถโดยสาร ดำเนินการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หัวฉีด ไส้กรองไอเสีย ไส้กรองอากาศ และท่อพักไอเสีย รวมทั้งล้างทำความสะอาดท่อไอเสียของรถโดยสารทุกคัน ก่อนรอบปกติ เพื่อลดการปล่อยฝุ่นละอองจากท่อไอเสีย
3. ล้างทำความสะอาดอู่จอดรถและรถโดยสาร เพื่อชะล้างฝุ่นละออง
มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด – 19
ด้านพนักงานประจำรถ
1. ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้งก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร หากตรวจพบว่าพนักงานมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส จะไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ และให้รีบไปพบแพทย์ทันที
2. กำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร
3. ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร กรณีมีผู้ใช้บริการบนรถมากพอสมควร ควรรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
ด้านรถโดยสารประจำทาง
1. เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่าน
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายใน รถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น
3. กำหนดจุดนั่ง (เบาะที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท) และจุดยืนภายในรถโดยสาร
4. ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน“ไทยชนะ”บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้าง ภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือน ผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์
5. ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน“หมอชนะ”บริเวณผนังด้านข้างภายในรถโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ ในการใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว
ด้านผู้ใช้บริการ
1. ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร
2. ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่ติดตั้งบริเวณประตูทางขึ้น
3. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรสแกนQR Code แอปพลิเคชัน“ไทยชนะ” บนรถโดยสาร เพื่อเช็คอินเมื่อขึ้นรถ และเช็คเอาท์ก่อนลงจากรถ สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก.ทุกประเภท ควรลงทะเบียนบัตรที่ www.bmta.co.th เพื่อให้บัตรดังกล่าว สามารถเช็คอิน – เช็คเอาท์โดยอัตโนมัติ เมื่อนำบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ มาแตะที่เครื่อง EDC เพื่อชำระค่าโดยสาร
4. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” เพื่อตอบแบบสอบถามประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) และลงทะเบียน
5. ควรนั่งบนเบาะที่กำหนด (เบาะที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท) และยืนบนจุดที่กำหนด หรือยืนห่างกันอย่างน้อย 30 เซนติเมตร กรณีมีผู้ใช้บริการบนรถมากพอสมควร ควรรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
6. ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด
7. ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของ ขสมก. บัตรเดบิต-เครดิตที่มีสัญลักษณ์คอนแทคเลส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโมบายแบงก์กิ้ง เพื่อลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ที่อาจเป็นสื่อกลางในการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19)
มาตรการความปลอดภัย
การเตรียมความพร้อมของรถโดยสาร ขสมก. ได้ประสานบริษัทเหมาซ่อมตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน พร้อมทั้งให้พนักงานขับรถโดยสาร ตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบเบรก ประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติ และถังดับเพลิง เป็นต้น ก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน
การเตรียมความพร้อมของพนักงานประจำรถ ให้หัวหน้างาน ตรวจความพร้อมทางด้านร่างกายของพนักงานประจำรถ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตรวจใบอนุญาตขับขี่ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถ เปิดประตูเมื่อรถจอดสนิท และปิดประตูก่อนนำรถออกจากป้าย ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด และให้ระมัดระวังผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน รวมถึงให้พนักงานเก็บค่าโดยสารช่วยดูแลอำนวยความสะดวกในการขึ้น – ลงรถแก่ผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งจัดพนักงานนายตรวจ สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น-ลงรถของผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเดินรถ ช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันมาฆบูชา ได้แก่ ศูนย์วิทยุรัชดา สำนักงานใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ศูนย์วิทยุเขตการเดินรถที่ 1 – 8 ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2564 และจัดเจ้าหน้าที่ Call Center 1348 ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเส้นทางเดินรถโดยสารอีก