นายชัชฤทธิ์ ตั้งเถกิงเกียรติ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าผลิตภัณฑ์ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ทีทีบีไดรฟ์ ยึดมั่น ภารกิจ “มากกว่าสินเชื่อรถ… เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น” ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและคู่ค้าในทุกมิติ ด้วยโซลูชันทางการเงินที่ออกแบบเพื่อทำให้ชีวิตทั้งลูกค้าและคู่ค้าดีขึ้นอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อรถยนต์ใหม่ สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว สินเชื่อรถแลกเงิน และพร้อมเดินหน้ารุกตลาดสินเชื่อรถ EV
ทีทีบีไดรฟ์ มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำเรื่องสินเชื่อรถยนต์ในตลาดรถ EV ด้วยการรุกตลาดขยายฐานสินเชื่อรถยนต์ EV ตอกย้ำการเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ที่มากกว่า 25% และเห็นถึงแนวโน้มการตอบรับกับความนิยมของตลาดรถยนต์ EV ที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง จึงได้จัดแคมเปญพิเศษที่ครอบคลุมรถยนต์ EV ทุกประเภท โดยล่าสุด จัดแคมเปญพิเศษ EV Guarantee Approve สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อรถ EV เพียงมียอดดาวน์เริ่มต้น 20% กับสินเชื่อรถยนต์ใหม่ทีทีบีไดรฟ์ สามารถผ่านการอนุมัติง่ายขึ้น และเร็วขึ้น พร้อมโปรแกรมสินเชื่อพิเศษอย่างต่อเนื่อง ซึ่งร่วมแคมเปญกับรถ EV ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ (BEV) รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) และรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (PHEV) และที่สำคัญเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้สูงสุดยาวถึง 84 งวดฃ
ผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้าร่วมแคมเปญ ได้แก่ รถยนต์ PHEV ทุกยี่ห้อ รถยนต์ BEV ยี่ห้อ Toyota, Honda, MG, ORA, Neta ทุกราคา รถยนต์ BEV ยี่ห้ออื่น(นอกเหนือจากข้อ 2) ที่มีราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป รถยนต์ HEV ของยี่ห้อ Haval ทุกราคา รถยนต์ HEV ของยี่ห้อ Toyota, Honda ที่มีราคา 1 ล้านบาทขึ้นไปและเป็น Model ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ แคมเปญพิเศษนี้ สำหรับลูกค้าประเภทบุคคลธรรมดา และออกรถกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2566
ทีทีบีไดรฟ์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาทั้งระบบ Ecosystem ด้วยการจับมือกับพันธมิตรและคู่ค้า เพื่อขยายฐานสินเชื่อรถ EV โดยเสริมความแข็งแกร่งให้กับคู่ค้า (OEM) ต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะสนับสนุนด้านแคมเปญส่งเสริมการขาย (Exclusive Partnership Campaign) สำหรับรถ EV แล้ว ยังมุ่งเน้นการพัฒนาการเชื่อมต่อโซลูชันด้านดิจิทัลร่วมกับคู่ค้าเพื่อตอบโจทย์ยุคดิจิทัลแบบครบวงจร
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา ทีเอ็มบีธนชาต เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ออกตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ ตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) ผ่านความร่วมมือของบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) เน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศไทย ผ่านการขยายสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ต้องการเลือกใช้รถ EV เพื่อสนับสนุนให้ผู้ใช้รถสามารถเข้าถึงยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ได้ง่ายขึ้น
