ทล.เชิญ 14 หน่วยงานชี้ชะตาแบบก่อสร้างใหม่ใน 17 สัญญา มอเตอร์เวย์สาย 6 บางปะอิน-โคราช เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ถูกต้อง ความโปร่งใสและเป็นธรรม ชี้ 4 สาเหตุออกแบบก่อสร้างผิดพลาด ลั่นธ.ค.นี้ได้ข้อสรุป ย้ำเปิดใช้ทันปลายปี 65 ตามแผนแน่นอน
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ปัญหาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข6หรือ M6 สายบางปะอิน-โคราช ที่ต้องปรับรูปแบบงานก่อสร้าง17ตอนจากทั้งหมด40ตอนว่า ทล. ได้ส่งหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง14 แห่งช่วยส่งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาตรวจสอบการปรับแก้ไขแบบครั้งนี้ให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ถูกต้องตามขั้นตอนหลักวิศวกรรมและให้เกิดความ โปร่งใสและเป็นธรรม เพราะต้องใช้วงเงินเพิ่มอาจมีข้อครหาได้ บางตอนใช้วงเงินเพิ่มมากหรือบางตอนเพิ่มน้อย เพราะฉะนั้นต้องมีหน่วยงานกลางเข้ามาร่วมพิจารณา
นอกจากนี้ยังให้หน่วยงานดังกล่าวส่งรายชื่อบุคคลร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม คาดว่าหน่วยงานทั้งหมดจะส่งรายชื่อมาครบทั้ง2ส่วนประมาณสัปดาห์นี้ ก่อนจัดตั้งคณะกรรมการได้ภายในเดือนต.ค.นี้
โดยคณะกรรมการต้องตรวจสอบการปรับแบบครั้งนี้ที่ทำให้ใช้วงเงินเพิ่มขึ้นมาจาก 4 สาเหตุหลัก ที่คณะทำงานของกรมทางหลวงได้รายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นได้แก่ 1. โครงการถูกออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 55 ใช้แบบเปิดประกวดราคาเมื่อปี 59 ช่วง4ปีบางตอนมีสภาพพื้นที่เปลี่ยนไป 2.เกิดจากทางด้านวิศวกรรม เช่น ตอนออกแบบไม่เจาะสำรวจละเอียดว่าพื้นที่มีสภาพชั้นหินหรือชั้นดินแบบไหน อาทิ มีหินผุหรือมีพื้นที่หนาแน่น เมื่อก่อสร้างได้สำรวจพบว่าเดิมออกแบบไว้เป็นดินถมซึ่งมีน้ำหนักเมื่อนำมาใช้จริงอาจไม่เหมาะในบางตอน เพราะบริเวณนั้นอาจต้องสร้างเสาเข็ม หรือสร้างโครงสร้างเพิ่มต้องปรับแบบให้เหมาะกับสภาพทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะเรื่องชั้นดิน
3.การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เช่น สร้างทางขนาน สร้างทางบริการ และสร้างทางลอดตอนออกแบบครั้งแรกไม่ทราบข้อมูลว่าต้องดำเนินการทั้งหมด แต่เมื่อลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชน และเยียวยาผลกระทบต้องดำเนินการเพิ่มเติม และ 4.ข้อจำกัดหน่วยงานที่แนวเส้นทางมอเตอร์เวย์ผ่าน เช่น กรมชลประทาน ต้องสร้างสะพานข้ามคลองชลประทานเพิ่ม ตอนออกแบบไว้มีความสูงจากระดับผิวน้ำ3 เมตร เมื่อดำเนินการจริงบางพื้นที่อาจต้องเพิ่มความสูงเป็น4เมตร ทำให้โครงสร้างยาวขึ้นงบประมาณจึงเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม บางตอนอาจเกิดการปรับแบบทั้ง 4 กรณี หรือบางตอนอาจปรับแค่กรณีเดียวขึ้นอยู่กับความเหมาะสม โดยต้องได้ข้อสรุปภายในปลายเดือน พ.ย. หรือ ต้น ธ.ค.ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม รวมทั้งต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือน ธ.ค.เดิมที ทล. จะเสนอพร้อมกันทั้ง17 ตอน แต่กระทรวงต้องการให้พิจารณารอบคอบให้ทยอยเสนอ ครม. พิจารณาทีละตอนแทน
อธิบดีทล.ย้ำว่าวงเงินที่จะขอเพิ่มขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปต้องรอคณะกรรมการที่จะแต่งตั้งพิจารณาก่อน โดยจะใช้เงินในกรอบที่เคยเสนอรัฐ เพราะโครงการนี้ใช้วงเงินลงทุน 84,600 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 77,970 ล้านบาท และค่าเวนคืน 6,630 ล้านบาท แต่ค่าก่อสร้างได้ประกวดราคาตามแบบปี 59 ใช้วงเงินแค่ 60,000 ล้านบาท เหลือกรอบวงเงินที่ ครม. เคยอนุมัติไว้เมื่อปี 58 ประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท แต่ยังไม่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาล ดังนั้นจึงต้องเสนอของบฯส่วนนี้ต่อไป สำหรับความคืบหน้าโครงการกว่า90% เมื่อปรับแก้แบบเพิ่มจะทำให้ความคืบหน้าผลงานรวมลดลงแต่ยืนยันว่าจะเปิดบริการปลายปี 65 ได้ตามแผน