เมื่อเร็วๆ นี้ เกิดเหตุรถไฟชนรถบัสสายบุญอย่างจัง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการสูญเสียมากที่สุดในรอบหลายปี จึงอยากแชร์ความรู้เรื่อง “ทางลักผ่าน” ให้ผู้อ่านได้ทราบ เพราะบริเวณนี้ถือเป็นจุดเสี่ยงที่ทำให้มีอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้ง
มาเริ่มทำความรู้จัก “จุดตัดทางรถไฟ” กัน โดยที่พบเห็นในปัจจุบันนั้น แบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ จุดตัดทางรถไฟแบบต่างระดับ จุดตัดทางรถไฟแบบมีเครื่องกั้น จุดตัดทางรถไฟแบบควบคุมด้วยเครื่องหมายจราจร และจุดตัดทางรถไฟที่เป็นทางลักผ่าน
“ทางลักผ่าน (Illegal Crossing)” คือ ทางตัดผ่านทางรถไฟที่เป็นทางเข้า-ออกประจำของเอกชนหรือผู้อยู่อาศัยบริเวณนั้น ๆ ผู้ทำทางตัดผ่านอาจจะเป็นประชาชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล “แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตทำทางตัดผ่านจากการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือไม่ได้รับอนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทย” จึงเป็นทางตัดผ่านที่ไม่มีการควบคุมด้านความปลอดภัย
ซึ่งในปัจจุบันนี้พบว่ามีจำนวนมากและยากต่อการควบคุมให้อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยเมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยของการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟ พบว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ประมาณร้อยละ 87 เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น ได้แก่ จุดตัดทางรถไฟประเภททางลักผ่าน และจุดตัดทางรถไฟที่ควบคุมด้วยเครื่องหมายจราจรเพียงอย่างเดียว
หากแต่สิ่งเดียวที่การรถไฟฯ มีขอบเขตในการป้องกันได้คือการติดตั้งป้ายเตือน และป้ายหยุด ก่อนข้ามทางรถไฟ แต่สิ่งป้องกันเหล่านั้นก็ป้องกันได้ไม่เต็ม 100% จากพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของผู้ขับขี่ยวดยาน ซึ่งนอกจากจะเกิดอุบัติเหตุแล้ว รถไฟยังไม่สามารถทำความเร็วได้เสถียร ทำให้รถไฟล่าช้ากว่ากำหนดเวลา (เพราะการคิดกำหนดเวลารถไฟ จะมีการกำหนดความเร็ว และใช้สูตรคณิตศาสตร์ในการคำนวน หากความเร็วไม่เสถียร จะส่งผลให้รถไฟวิ่งผิดจากเวลาที่คำนวนไว้)
แล้วใครเป็นผู้ที่มีหน้าที่ทำเครื่องกั้นในจุดตัด????
ผู้มีหน้าที่ในการทำทางผ่านจุดตัดทางรถไฟ ความรับผิดชอบในค่าใช้จ่าย และการขออนุญาตก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟ ความรับผิดในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และการบังคับใช้กฎหมายทั้งก่อนและหลังเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้มีหน้าที่ในการทำทางผ่านจุดตัดทางรถไฟ ความรับผิดชอบในค่าใช้จ่าย และการขออนุญาตก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟ ในประเด็นแรกนี้มีปัญหาว่า เมื่อเกิดจุดตัดทางรถไฟขึ้นแล้ว บุคคลใดหรือหน่วยงานใดมีหน้าที่ลงทุนก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการขุดอุโมงค์ลอดทางรถไฟ การทำทางต่างระดับข้ามผ่านทางรถไฟ การทำเครื่องกั้น การติดตั้งสัญญาณแสงและสัญญาณเสียง ตลอดจนการดูแลขอบและไหล่ทางของทางรถไฟมิให้มีสิ่งปลูกสร้าง ต้นไม้ หรือหญ้าขึ้นสูงอันจะทำให้บดบังการมองเห็นการเคลื่อนตัวของรถไฟที่แล่นมายังจุดตัดทางรถไฟ คำตอบในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ทำทางรถไฟตัดผ่านถนนหรือที่ดินของบุคคลอื่น หรือในทางตรงกันข้ามบุคคลอื่นทำถนนตัดผ่านทางรถไฟที่มีอยู่แล้ว
ในกรณีแรก หากการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ทำทางรถไฟตัดผ่านถนนหรือที่ดินของบุคคลอื่น พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟแลทางหลวง พระพุทธศักราช 2564 กำหนดว่า …. การรถไฟแห่งประเทศไทยมีอำนาจทำทางผ่านเสมอระดับหรือลอดใต้หรือข้ามที่ดิน ถนน ทางรถราง แม่น้ำหรือลำคลอง และเมื่อทางรถไฟผ่านข้ามถนนสำคัญเสมอระดับ การรถไฟแห่งประเทศไทยต้องวางรางคู่กำกับเพื่อให้มีช่องพอครีบล้อรถผ่านไปมาได้ กับให้ทำประตู หรือขึงโซ่ หรือทำราวกั้นขวางถนนหรือทางนั้น ๆ ตามที่เห็นสมควร ทำให้เข้าใจได้ว่า เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทยมีหน้าที่จัดทำเรื่องดังกล่าว ความรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการจัดทำจุดตัดทางรถไฟ ย่อมตกเป็นภาระแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย
ในกรณีที่ 2 หากบุคคลอื่นเป็นผู้ทำถนนตัดผ่านทางรถไฟที่มีอยู่แล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมักเป็นกรณีที่หน่วยงานราชการบริหารส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ทำถนนผ่านทางรถไฟเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในบริเวณนั้น แต่การทำช่นนั้นทำห้เกิดจุดตัดทางรถไฟที่ไม่ได้รับอนุญาตและเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ฉะนั้น ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ควรระลึกถึงพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
มาตรา 62 ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่าน ถ้าปรากฏว่า (1) มีเครื่องหมายหรือสัญญาณระวังรถไฟแสดงว่ารถไฟกำลังจะผ่าน (2) มีสิ่งปิดกั้นหรือมีเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณแสดงว่ารถไฟกำลังจะผ่าน (3) มีเสียงสัญญาณของรถไฟหรือรถไฟกำลังแล่นผ่านเข้ามาใกล้อาจเกิดอันตรายในเมื่อจะขับรถผ่านไปผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อรถไฟผ่านไปแล้วและมีเครื่องหมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงจะขับรถผ่านไปได้
มาตรา 63 ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่านไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่ น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้
โดยสรุปแล้ว หากเดินทางไปยังเส้นทางที่ไม่คุ้นชิน หรือหากผ่านยังไปเส้นทางลักผ่าน ผู้ขับขี่รถทุกประเภทควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อลดการเกิดอุบัติ ที่สำคัญจะช่วยลดการสูญเสียได้เป็นอย่างดีทีเดียว
: ฟันเหล็ก