นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รมว.คมนาคม) เปิดเผยว่า ระบบรางไทยในปัจจุบันใช้ประสิทธิภาพได้เพียงร้อยละ 30 เท่านั้น ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยังมีการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมทั้งในประเทศและเชื่อมต่อระหว่างประเทศ โดยได้มอบแนวทางว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นให้เอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาขนส่งระบบราง สิ่งที่เป็นโจทย์สำคัญ คือช่วงว่างในการเดินรถว่ามีมากน้อยแค่ไหนและจะบริหารอย่างไร แน่นอนว่าสหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทยจะต้องบริหารก่อน แต่ซึ่งหากสหภาพทำเต็มที่แล้วที่เหลือก็จะให้เอกชนทำ
“การจะเปิดให้เอกชนเข้ามา เราต้องกล้าที่จะให้สัมปทานแก่เอกชนด้วย อาจเป็นการเสนอเปิดให้เอกชนลงทุนเข้ามาลงทุนยาวเป็น 99 ปี เหมือนกับในหลายประเทศ ซึ่งไม่ใช่มองว่าทุกอย่างคือการเอื้อเอกชน แต่ต้องดูว่าประชาชนได้อะไร และเรื่องนี้จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายอยู่ด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนามากขึ้น”
ทั้งนี้ รมว.คมนาคม ยืนยันว่า จากการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตในหลายประเทศแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน ทั้ง รัสเซีย สาธารณรัฐเช็ก เกาหลีใต้ รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่าการให้ภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการระบบราง จะต้องสามารถขับเคลื่อนได้ภายในรัฐบาลชุดนี้เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องรอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กรมรางแล้วเสร็จ เนื่องจากมี พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว