ปัจจุบันสงครามธุรกิจส่งอาหาร “Food Delivery”ในเมืองหลวงกำลังแข่งขันอย่างดุเดือด เพราะทั้งธุรกิจไทยและต่างชาติต่างเปิดแอปพลิเคชั่นจัดโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการหวังแย่งส่วนแบ่งตลาดที่บรรดานักวิเคราะห์จากสำนักงานต่างๆประเมินว่ามูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทในปี 2562 และถือว่าเป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในในยุคนี้
แอปพลิเคชั่นสั่งอาหารแบบเดลิเวอร์รี่ ที่กำลังฮิตครองใจชาวกรุงมีอยู่ 5 แอปพลิเคชั่น ประกอบด้วย Foodpanda,GrabFood , LINE MAN, HappyFresh และGobike ซึ่งแต่ละแอปพลิเคชั่นต่างอัดแคมเปญในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์เพื่อดึงดูดลูกค้าหันมาใช้บริการ
โดยสาเหตุหลักที่ผู้ประกอบการเปิด “สงครามโปรโมชัน”แข่งอย่างรุนแรงเนื่องจากต้องการรวบรวมฐานข้อมูลลูกค้า ผู้ประกอบการร้านอาหาร ให้ได้มากที่สุด เมื่อมีฐานลูกค้าได้จำนวนมากแล้ว เป้าหมายต่อไป คือ การต่อยอดธุรกิจได้หลากหลายแขนงผ่านแอปพลิเคชั่น ตลอดทั้งสามารถเรียกค่าบริการจากผู้ประกอบการร้านอาหารได้อีกทางหนึ่ง โดยช่วงแรกบรรดาผู้ประกอบการแอปพลิเคชั่นอาจยอมขาดทุนไปก่อน
Food Delivery ใครโปรฯดีก็รอด
ช่วงที่ผ่านมาผู้ให้บริการแอปพลิเคชันสั่งอาหารออนไลน์ ต่างจัดโปรฯ ทำแคมเปญและทุ่มโฆษณากันเดือด และเป็นไปได้มากว่างานนี้ “ใครเงินหมดก่อนแพ้” แน่นอน
ด้านแอพพลิเคชั่น Foodpanda ต้นตำหรับจากประเทศเยอรมนี ซึ่ง บริษัท Delivery Hero เข้าซื้อ Foodpanda ทำให้ทั้งสองบริษัทกลายเป็น Startup ด้าน Food delivery ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ทุกวันนี้ขยายสาขาไปทั่วโลก โดย Foodpanda เข้ามาเปิดในประเทศไทยเมื่อปี 2555 ถือเป็นเบอร์ 1 ที่มีร้านอาหารอยู่ในฐานข้อมูลมากกว่า 7,000 ปี 2561 และในปี 2562 ตั้งเป้าขยายไม่ต่ำกว่า 1 แสนร้านค้าของมูลค่าการสั่งออร์เดอร์ของลูกค้า เมนูที่ลูกค้าไทยนิยมคือ พิซซ่า เบอร์เกอร์ แล้วก็เมนูไก่ อย่างบอนชอน ทั้งแบบจ่ายเงินสดเก็บปลายทาง
Foodpanda ถือว่าต้นตำหรับบริการส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นรายแรกของไทย หลังจากนั้นคู่แข่งมีคู่แข่งเกิดขึ้นมากมายแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด เช่น GrabFood ในเครือของแกร็บ (Grab) เป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสิงคโปร์ ผู้ให้บริการเรียกรถ ปัจจุบันขยายสาขา 4 ประเทศ ประกอบด้วยเวียดนาม, เมียนมา, กัมพูชา และ ไทย
ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เชื่อว่าการบริการส่งอาหารจะสร้างรายได้หลักให้กับบริษัทต่อจากบริการเรียกรถส่งคน เพราะธุรกิจส่งอาหารตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดมูลค่าธุรกิจ Food Delivery ปี 2562 พุ่งแตะ 35,000 ล้านบาท ผลจากการแข่งขันของแอปพลิเคชั่นสั่งอาหาร ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเพิ่มขีดสามารถในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่คาดว่าปีนี้จะมีมูลค่าทางการตลาด เติบโตต่อเนื่องราว 14% จากปีก่อน และคิดเป็น 8% ของมูลค่าธุรกิจร้านอาหารของประเทศไทยในปี 2562 ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนจากการแข่งขันของแอปพลิเคชั่นสั่งอาหาร
ชาญวุฒิ ลือชัยสิทธิ์ ผู้อำนวยการการตลาดและสื่อสารองค์กร LINE ประเทศไทย กล่าววา ปีนี้ในภาพรวมทุกบริการเพิ่มขึ้นของยอดการใช้บริการ 300% และมีผู้ใช้บริการ 1.5 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งบริการที่เติบโตดี จนถือเป็น Growth Engine คือ LINE MAN Food โต 250% และ LINE MAN Taxi โต 330% เนื่องจากบริการจัดส่งอาหาร ได้เพิ่มความหลากหลายของร้านอาหาร บวกกับความสะดวก
การทำธุรกิจ LINE MAN ไม่สามารถเติบโตคนเดียวได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีพันธมิตรแต่ละกลุ่มบริการเข้าร่วม อย่างบริการสั่งอาหาร ปัจจุบัน LINE MAN มีกว่า 40,000 ร้านค้า มากกว่า 80% เป็นร้านสตรีทฟู้ด และจับมือกับ “วงใน” ซึ่งเป็นออนไลน์รีวิว อาหารรายใหญ่ในไทย ที่โดดเด่นด้านอาหารการกิน เพื่อแนะนำว่าวันนี้ มื้อนี้ จะรับประทานอะไรดีจากร้านอาหารมากมายที่อยู่บนแพลตฟอร์ม LINE MAN
เจรกอร์ช ซากาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮปปี้เฟรช ประเทศไทย บอกว่า HappyFresh มีรายการสินค้ามากกว่า 300,000 รายการ รวมถึงร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าชั้นนำมากกว่า 278 แห่ง และมีการให้บริการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าไปแล้วรวมมากกว่า6,339,650 กิโลเมตร พร้อมบริการถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมงถัดไป หรือตามเวลาที่ลูกค้าสะดวก อีกทั้งยังมีพาร์ตเนอร์ถึง 92 ราย อาทิเช่น กูร์เมต์ มาร์เก็ต, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี และอื่นๆ และจำนวนพนักงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการช่วยคัดสรรสินค้าคุณภาพดีกว่า 1,000 คน
อัฏฐพล สิทธิชัยอารีกิจ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งแอปพลิเคชั่น goBIKE บอกว่า ทุกวันนี้ไม่เพียงแต่จับมือกับพันธมิตร้านสะดวกแฟมิลี่ มาร์ท ยังได้ร่วมกับผู้ประกอบการร้านอาหารหลาย 100 แห่งบริการส่งสินค้าทั่วกรุงเทพฯมีค่าบริการเริ่มต้น 50 บาท และยังได้ร่วมสมาคมฯ วินมอเตอร์ไซค์บริการรับส่งผู้โดยสารทั่วกทม.ผ่านแอปพลิเคชั่น goBIKE ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดไม่ทิ้งผู้โดยสารกลางทาง และมีการเพิ่มรายได้ให้กับวินมอเตอร์ไซค์
ธุรกิจเดลิเวอรี่กลายเป็นธุรกิจดาวเด่นที่กล้าเผชิญหน้าในโลกยุค Disruption แม้ว่าเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่หากทำได้ก็หมายถึงสามารถเข้าแย่งส่วนแบ่งตลาดที่มีมูลค่า 35,000 ล้านบาทได้เลยทีเดียว