นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 94 คงเหลือการปูผิวจราจรแอสฟัลท์คอนกรีต ติดตั้งรอยต่อสะพาน ติดตั้งป้ายจราจร และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยจะเปิดใช้งานฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ก่อนในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 หลังจากนั้น จะเปิดใช้งานทั้งสองทิศทางเต็มรูปแบบในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ ระหว่างการก่อสร้างในส่วนที่เหลือได้เน้นย้ำกับวิศวกรผู้คุมงานและผู้รับเหมาให้คำนึงถึงความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทั้งความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว และความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งให้ตรวจสอบความเรียบร้อยของการก่อสร้างทั้งหมดให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรมและมาตรฐานของกรมทางหลวงชนบท ที่กำหนดไว้อย่างครบถ้วน ควบคู่ไปกับการตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยให้มีสถานะ ที่พร้อมใช้งานและได้มาตรฐานความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงกำชับให้ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยบนสายทางเพิ่มเติม โดยเฉพาะการติดตั้งป้ายจำกัดความเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้เส้นทางก่อนเปิดใช้ต่อไป นอกจากนี้ยังได้แนะแนวทางในการบริหารจัดการการจราจรในช่วงก่อนเปิดใช้บริการ
เพื่อลดผลกระทบในการเดินทางให้กับประชาชน กำชับผู้รับจ้างให้หยุดก่อสร้างในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมจัดเก็บอุปกรณ์ก่อสร้างให้มิดชิดเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 และบริหารจัดการเรื่องฝุ่น PM2.5 ตลอดการก่อสร้างในส่วนที่เหลือ ทั้งการหมั่นฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาดล้อรถที่เข้า – ออกพื้นที่โครงการ และปิดคลุมวัสดุก่อสร้างให้เรียบร้อยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่ สำหรับโครงการฯ เป็นการก่อสร้างที่ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างแขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ กับตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพความคล่องตัวของถนนราชพฤกษ์ ให้เกิดการกระจายของปริมาณการจราจรเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด การจราจรที่มีสภาพเป็นคอขวด โดยเฉพาะบริเวณสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งได้กำหนดรูปแบบให้อยู่ในเขตทางเดิม ตั้งแต่ กม. ที่ 12+850 – 15+100 เป็นสะพานเหล็กขนาด 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง (ไป – กลับ) กว้าง 8.50 เมตร ความยาวช่วงสะพานอยู่ระหว่าง 30 60 เมตร ฝั่งขาเข้ายาว 2.10 กิโลเมตร ฝั่งขาออกยาว 1.90 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และงานเบ็ดเตล็ด ใช้งบประมาณ 1,181.515 ล้านบาท
