“ไทย สมายล์ บัส” เปิดแผนปฏิรูปรถเมล์ไทยทั้งระบบ พร้อมลุยปราบ “รถเมล์เถื่อน – เส้นทางทับซ้อน – ยกระดับคนขับ/กระเป๋า” จูงใจคนขึ้นรถเมล์ทะลุล้านคน
ดันรถเมล์ไทย TOP 1 อาเซียน
น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า EV 100% เปิดเผยว่า จากการดำเนินธุรกิจรถเมล์ไฟฟ้าที่ให้บริการประชาชนมาเป็นเวลา 2 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 บริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง มีผู้ใช้บริการมากกว่า 300,000 คนต่อวัน และมุ่งมั่นที่จะยกระดับบริการขนส่งสาธารณะด้วยรถเมล์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย ให้เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งการพัฒนาบุคลากร การเพิ่มจำนวนรถ ขยายเส้นทางการให้บริการ รวมถึงเพิ่มเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
เตรียมแผนอนาคตเพิ่มรถเมล์ครบ 3,000 คัน
โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีจำนวนรถเมล์ไฟฟ้าพร้อมให้บริการประชาชนมากถึง 2,350 คัน และมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนให้ครบ 3,100 คันตามเป้าหมาย ซึ่งมากกว่าจำนวนรถที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนดไว้ถึง 45% เพื่อนำมาเพิ่มความถี่ในการให้บริการอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูงสุด ปัจจุบัน ไทย สมายล์ บัส ได้บรรจุรถในระบบครบตามใบอนุญาตที่ทางกรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้แล้ว
มุ่งยกระดับการให้บริการประชาชน
ทั้งนี้ ไทย สมายล์ บัส ยังคงเดินหน้ายกระดับการบริการทั้งระบบตามข้อร้องเรียนของประชาชน โดยเฉพาะการให้บริการของกัปตันเมล์ และบัสโฮสเตส โดยได้ทยอยส่งพนักงานไปฝึกอบรมสถาบันฝึกอบรม 3K Solution Management เปลี่ยนพนักงานให้ได้มาตรฐานภายใต้จิตใจบริการ ปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมแล้ว 2,341 คนและในอนาคตกัปตันเมล์ และบัสโฮสเตส จะต้องผ่านอบรมทั้งหมดก่อนออกมาให้บริการ
ร่วมลดปัญหาค่าครองชีพให้ผู้โดยสาร
นอกจากนี้ ไทย สมายล์ บัส ยังเล็งเห็นปัญหาสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพภาคครัวเรือน อีกทั้งเข้าช่วงฤดูกาลเปิดภาคเรียนปีการศึกษาใหม่ ไทย สมายล์ บัส จึงได้ประกาศยกเว้นค่าโดยสาร สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยรถเมล์ของ ไทย สมายล์ บัส สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จากปัจจุบันที่มีอัตราการจัดเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 10-15-20-25 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้ 2 พฤษภาคม 2567 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
วอนภาครัฐปฏิรูประบบสาธารณะไทย
จากที่ได้เข้ามาบริหาร “ไทย สมายล บัส“ จึงเห็นปัญหาที่ควรแก้ไข เช่น กฎระเบียบที่ยังไม่เอื้อต่อการเดินรถ, เส้นทางทับซ้อนและรถเถื่อน, ความชัดเจนเลขสายใหม่ เป็นต้น ตรงนี้ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนเป็นอย่างมาก เพราะต้องแข่งขันกันอย่างหนักเพื่อความอยู่รอด ถ้ายังไม่แก้ปัญหาดังกล่าว อาจเห็นรถเมล์ใหม่ๆ หายไปจากระบบขนส่งไทย คนที่เดือดร้อนก็จะตกไปอยู่ที่ภาคประชาชน
เปิดแผน 4 แนวทางแก้ไขปัญหาทั้งระบบ
อย่างไรก็ดี จากแผนปฏิรูปรถโดยสารสาธารณะ 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ ของกรมการขนส่งทางบก ยังคงพบปัญหาหลายด้าน เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการทุกราย ดังนั้น ไทย สมายล์ บัส จึงได้เสนอ 4 แนวทางแก้ไขปัญหาทั้งระบบ คือ
1. แก้ไขกฎระเบียบที่ยังไม่เอื้อต่อการเดินรถ เช่น อนุญาตให้ปรับย้ายรถในเส้นทางกลุ่มเดินรถ เดียวกันได้ เพื่อเสริมรถในเส้นทางที่มีความต้องการสูง ตอบโจทย์ผู้เดินทาง
2. เร่งแก้ไขปัญหาเส้นทางทับซ้อนและรถเถื่อน ที่ลักลอบรวมถึงสวมสิทธิ์นำรถมาวิ่งให้บริการประชาชนทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก นอกจากไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย ยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากการแย่งผู้โดยสาร เฉพาะของไทย สมายล์ บัส พบปัญหารถเมล์เถื่อนและวิ่งทับซ้อนมากกว่า 50% จากที่ให้บริการทั้งหมด 123 เส้นทาง
3. ขอให้เร่งสรุปความชัดเจนเลขสายใหม่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อความสะดวกและจดจำง่าย เนื่องจากปัจจุบันได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าจดจำยาก และไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
4. ขอให้ร่วมบูรณาการยกระดับรถเมล์ทั้งระบบ โดยเฉพาะด้านบุคลากร ซึ่งไทย สมายล์ บัส ยินดีที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน
ตั้งเป้าหมายอนาคตผู้โดยสารทะลุล้านคน/วัน
ปัจจุบันผู้โดยสารทะลุ 300,000 คน/วัน มีรายได้ประมาณ 5 ล้านบาท/วัน โดยเป้าหมานต่อไปอยากได้ผู้โดยสารเพิ่มเป็น 700,000 คน/วัน มีรายได้เพิ่มเป็น 14 ล้านบาท/วัน และในอนาคตอยากได้ผู้โดยสารเพิ่มเป็น 1 ล้านคน/วัน มีรายได้ประมาณ 20 ล้านบาท
