บมจ.อาม่า มารีน (AMA) เดินหน้าเสริมเขี้ยว! เล็งเพิ่ม “เรือ-รถบรรทุก” เข้าฟลีท ลุยงานด้านโลจิสติกส์เต็มสูบ หวังปั้นรายได้ปีนี้เข้าเป้า 3,600 ล้าน พร้อมวางหมากปรับสัดส่วนขนส่งทางเรือและรถ 50 : 50 เพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจด้านเดียว พร้อมมุ่งเป้าปี 70 กวาดรายได้ทะลุ 5,000 ล้าน
นายพิศาล รัชกิจประการ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 นี้ AMA มีการวางแผนที่จะซื้อเรือเพิ่ม 1 ลำ ขนาด 13,000 DWT (Deadweight Tonnage) เนื่องจากตอนนี้อัตราดอกเบี้ย USD ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการหาซื้อเรือที่ตรงตามความต้องการค่อนข้างยาก จึงทำให้แผนการล่าช้าจากเดิมที่วางไว้ แต่ไม่มีผลกระทบในการจัดหาเรือใหม่ และยังคงเดินหน้าจัดหาเรือใหม่ตามแผนเดิม
เดินหน้าเพิ่มรถเข้าฟลีทอีก 20 คัน
ในส่วนของรถบรรทุกนั้น ตามแผนเดิมบริษัทฯ มีจะเพิ่มจำนวนรถสิบล้อที่รับงานขนส่งน้ำมันจากคลังน้ำมัน เพื่อไปส่งตามสถานีบริการน้ำมัน PT ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG จากแผนนั้นจะเพิ่ม 20 คัน ซึ่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพิ่มไปแล้ว 10 คัน และในเดือนตุลาคมจะเพิ่มอีก 10 คัน
ปัจจุบัน AMA วิ่งขนส่งให้กับทาง PTG ประมาณ 800 เที่ยววิ่ง ส่วนหนึ่งยังต้องอาศัยรถบรรทุกร่วมบริการ (Outsource) ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแนวคิดที่จะเพิ่มรถบรรทุกอีก โดยมีบริษัทย่อย “เอ เอ็ม เอ โลจิสติกส์ จำกัด หรือ AMAL” รับหน้าที่การขนส่งทางบก โดยปัจจุบัน AMAL มีรถ Semi-Trailer จำนวน 214 คัน ซึ่งจะทำหน้าที่ขนส่งจากคลังน้ำมันโรงกลั่น (Own Depot) ไปส่งที่คลังน้ำมัน PT และมีแผนที่จะเพิ่มอีก จำนวน 30 คัน นั่นหมายความว่า ภายในสิ้นปีนี้ จะมีรถบรรทุกทั้งหมด จำนวน 244 คัน
รถใหญ่ AMA มีให้บริการ 304 คัน
AMA ยังมีรถที่วิ่งส่งสถานีขนส่งบริการน้ำมัน แต่เดิม Semi-trailer ที่วิ่งขนส่งบริการ จำนวน 20 คัน และรถสิบล้อ จำนวน 20 คัน และในช่วงเดือนตุลาคมจะเพิ่มอีกจำนวน 10 คัน รวมทั้งสิ้นจะมีรถทั้งหมดในฟลีท จำนวน 304 คัน ในส่วนของภาพรวมธุรกิจขนส่งเม็ดพลาสสติก จะมีการซื้อรถ ISO Thank จำนวน 20 พ่วง แต่ยังใช้หัวลากเดิม
3 – 5 ปี ปรับสัดส่วนขนส่ง 50 : 50
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ AMA แบ่งเป็น การขนส่งทางเรือ ประมาณ 70% ประมาณ 30% และในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า AMA วางแผนปรับสัดส่วนใหม่ให้มีรายได้ทั้ง 2 ส่วน อยู่ที่ประมาณ 50 : 50 ซึ่งจะไม่ลดจำนวนเรือลง และเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่วนอื่นเข้ามาเพิ่มอีก เพื่อให้นักลงทุนเชื่อมั่นในธุรกิจของ AMA ว่ามีความมั่นคงและยั่งยืน
วางเป้าปี 70 รายได้ทะลุ 5,000 ล้าน
อย่างไรก็ดี ช่วงครึ่งปีแรก 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้เติบโตตามแผนที่ตั้งไว้ ในส่วนของช่วงครึ่งปีหลังจะสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วง High Season เพราะประเทศจีน โดยจะมีการนำเข้าน้ำมัน และสต็อกน้ำมันอย่างเต็มที่ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี เพื่อรองรับเทศกาลตรุษจีน ดังนั้น รายได้หลักจะมาจากจากประเทศจีน ประมาณ 50% อินเดีย ประมาณ 30-35% และในภูมิภาคอาเซียน (เวียดนาม เมียนมา และ ฟิลิปปินส์) ประมาณ 20-25%
สำหรับภาพรวมของรายได้ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 3,220 ล้านบาท กำไรสุทธิ อยู่ที่ 463 ล้านบาท ในส่วนของปีนี้ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 12% หรือ 3,600 ล้านบาท และวางเป้าปี 2570 มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท