กาลเวลาไปไวเหมือนโกหกสำหรับปีปฏิทิน 2566 ไม่ทันไรก็ผ่านไตรมาสแรกและเพิ่งก้าวข้าม 1 ขวบเดือนของไตรมาสสองมาแล้วท่ามกลางแรงโน้มถ่วงกระแสร้อนแรงปรากฎการณ์ทางการเมืองกับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.ที่จะถึงนี้ เราไปเกาะติดวงล้อตลาดรถบรรทุกจากแดนซามูไรในเมืองไทยว่าค่ายไหนตุนเสบียงยอดขายไว้แล้วกี่คัน?ค่ายไหนรุ่ง?ค่ายไหนบ้างหายใจรวยริน?
สถิติยอดขาย 4 เดือนแรก(ม.ค.-เม.ย.66)ในสมรภูมิรรถบรรทุกสายพันธฺุ์จากแดนปลาดิบบนผืนแผ่นดินไทย อ้างอิงจากรวบรวมของบริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าขาใหญ่เจ้าตลาดในไทยตัวจริงเสียงจริงเจ้าแห่งสโลแกน“Isuzu King of Trucks”อย่างอีซูซุยังโชว์ฟอร์มดุดันไม่เกรงใจไล่กวาดยอดขายตุนไว้หน้าตักเหนาะๆ5,093 คัน ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย 5.82%เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 5,408 คัน
ฟากรถเสี่ย“ฮีโน่”คู่อริหมายเลขหนึ่งทางการตลาดในไทยของอีซูซุ ที่เปิดฟลอร์เซิ้งการตลาดสู้กันสนุกสุดเหวี่ยงทุกปี ปีนี้หลังผ่านมาได้4เดือนแรก ฮีโน่ก็ยังไม่ทิ้งลายฟอร์มเก๋ากวาดนิ่มๆไปถึง 3,388 คันปรับตัวลดลง 27.14 %เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 4,650 คัน ฟากเบอร์สาม“ยูดี ทรัคส์”ยังอยู่ดีมีแฮงแรงต่อเนื่องเก็บสะสมยอดขายได้ถึง 508 คัน โตเพิ่มขึ้นถึง 62.82%เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 312 คัน ถือเป็นการเติบโตอย่างนัยยะสำคัญ
ขณะที่เบอร์สี่ไม่ใช่ใครก็ค่ายชบาแดงฟูโซ่ไงล่ะะ!ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด?หรือถูกมนต์ดำอะไรครอบงำไว้อยู่ก็มิทราบได้?เพราะหลังหลุดวงโคจรดิสทริบิวเตอร์รายเดิมมาตั้งแต่ปีมะโว้(31มี.ค.59)จนป่านนี้ยังดำผุดดำไหว้ผ่านมือกุนซือสมองเพชร-มาดละเมียด CEO ถึง3พระหน่อแล้วภายใต้บ้านหลังใหม่-ใหญ่บริษัทแม่จากเยอรมันหวังกระชากมาทำตลาดเองกับมือ ก็ยังไร้ทิศทางเห็นสว่างที่ปลายอุโมงค์หวังพลิกฟื้นตัวจากการติดหล่ม-หลุมดำได้
กับปีนี้หลังผ่าน 4 เดือนแรกก็สะสมได้(เพียง)105 คันหดตัวลง 17.32% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้าที่127คัน ยอดขายเพียงแค่นี้หากเทียบจากกระสุนดินดำอยู่เต็มหน้าตักที่มีอยู่หน้าตักบวกกับความหวังอันยิ่งใหญ่ ยังถือว่าห่างไกล ห่างไกล และห่างไกลยิ่งนักแล คงต้องลุ้นตัวโก่งต่อไปว่าทิศทางการทำตลาดของค่ายชบาแดงจากนี้ไปจะสามารถพลิกฟื้นกลับมาเบ่งบานได้อีกครั้งหรือไม่?
ตัดภาพมาละเมียดถึงอัตราการเติบโตของค่ายยูดี ทรัคส์ ที่ฉายภาพเส้นกราฟการเติบโตผ่านยอดขายหลังผ่าน 4 เดือนแรกที่508คัน โตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญถึง 62.82%หากเทียบช่วงเวลาเดียวของปีก่อนหน้า เฉลี่ยขายได้กว่า 100 คัน/เดือน หากยังโชว์ผลงานได้ดีต่อเนื่องอย่างนี้ในทุกๆเดือน คาดว่ายอดขายรวมของปีนี้ได้ทะลุกว่า 1,000 คันสูงเป็นประวัติการณ์ เบิกทางใสๆยึดเบอร์สามของตลาดรถบรรทุกสายพันธุ์ญี่ปุ่นไว้หนึบอีกปี
ผ่า3ดีหนุนยูดี ทรัคส์แรงต่อเนื่อง!
ย้อนดูไทม์ไลน์การขับเคลื่อนทางการตลาดขบวนล่าสุดที่เป็นอีกแรงส่งให้ยูดี ทรัคส์มีดีมีแรงหนุนให้มียอดขายดีต่อเนื่อง คงต้องย้อนไปเมื่อ 31 มี.ค.2565 จากการเปิดตัว 2 รุ่นหลักทั้งหล่อใหญ่ UD Quester และหล่อเล็ก UD Croner ปรับโฉมใหม่เวอร์ชั่นปี 2022 เป็นแรงหนุนให้ดีด้วยผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์การขนส่งที่หลากหลายภายใต้แนวคิดใหม่ Drive for better หรือ“ขับเคลื่อนสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้น” ได้มีการปรับปรุง-อัพเกรดประสิทธิภาพของฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้สอดคล้องและสนับสนุนการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่ง สร้างผลกำไรที่มากขึ้นก้าวข้ามข้อจำกัดด้านทรัพยากรที่มีในการขนส่งของผู้ประกอบการ
หล่อใหญ่ก็ดี หล่อเล็กก็คุ้มค่า
โดยหล่อใหญ่ ยูดี เควสเตอร์ สำหรับงานหนักที่ผสมผสานประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยมเข้ากับความทนทาน ขนาดเครื่องยนต์ 8 ลิตร ขุมกำลัง 280-350 แรงม้า มีทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา-เกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot และขนาดเครื่องยนต์ 11 ลิตร 370 แรงม้าสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และรุ่นเกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot ด้วยขุมกำลัง 390 แรงม้า ที่ถูกพัฒนาและออกแบบเพื่อตอบสนองความท้าทายด้านการขนส่งในปัจจุบัน กระจังหน้าโฉมใหม่ทำด้วยโครเมียมมาตรฐานทุกคันในรุ่น Quester และลายโครเมียมสอดรับโลโก้ UD ทำให้รถดูบึกบึนและมีความหรูหรายิ่งขึ้น
ส่วนเจ้าหล่อเล็กพริกขี้หนู!ยูดี โครเนอร์ รถบรรทุกขนาดกลางดีไซน์โดดเด่นเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ครบครันทันสมัย-คุ้มค่าทุกการใช้งาน เครื่องยนต์ขนาด 5 ลิตร และ 8 ลิตร กำลังแรงม้าตั้งแต่ 180 – 280 แรงม้า มีทั้งรุ่นที่เป็นเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ Allision ทันสมัยด้วยแผงหน้าปัดใหม่ พร้อมจอแสดงผลแบบ LED ระบบแนะนำการขับขี่แบบเรียลไทม์ (Fuel Coaching) รูปแบบใหม่ พร้อมระบบ BBM (Body builder module) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS แล้วก็ระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control ทุกรุ่น
ข้อเสนอดีสุดคุ้มบวกด้วยดีงานหลังบริการการขาย
ยูดี ทรัคส์ ขับเคลื่อนการบริการหลังการขายด้วย Extra Mile Support เพื่อสนับสนุนการใช้งานสูงสุดของตัวรถ อาทิเช่น ระบบ UD Telematics Service ไว้อำนวยความสะดวกให้เจ้าของธุรกิจสามารถติดตามข้อมูลต่าง ๆ ของรถได้ตลอดเวลา เช่น การตรวจสอบตำแหน่งของรถ ติดตาม แจ้งกำหนดเวลาที่สินค้าจะไปถึงลูกค้า ส่งผลต่อการวางแผนการใช้งานรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อธุรกิจ รวมไปถึงการตรวจสอบพฤติกการขับขี่ของพนักงานขับรถ นำไปสู่การปรับปรุงและแก้ไขการใช้งาน รวมไปถึงความพิเศษสุดกับข้อเสนอ UD Service Agreement สัญญาการบำรุงรักษารถของยูดี ที่จะนำเสนอแพ็คเกจการดูแลที่หลากหลายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าพร้อมบริการแจ้งเตือนและบริหารค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า และมีศูนย์บริการมาตรฐานครอบคลุมทั่วประเทศถึง 22 แห่ง
นี่คือบทสรุป 3 ดี “ผลิตภัณฑ์ดี ข้อเสนอดี และบริการดี”หนุนให้ยูดี ทรัคส์แรงดีต่อเนื่อง!
:ดัมพ์แมน
