NEX คึกคักรับกระแสตลาดรถอีวี ปี 66 ลุยส่งมอบรถไม่ต่ำกว่า 6,000 คัน ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 2.5 หมื่นล้านบาท เตรียมตอกเสาเข็มโรงงานแห่งที่ 2 กลางปีนี้
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า ตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (EV) มีความคึกคักมากขึ้น เห็นได้จากค่ายรถยนต์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนให้มีการใช้และผลิตรถ EV ในประเทศให้มากขึ้น โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ หรือ บอร์ด EV ได้กำหนดแนวทางและมาตรการตามนโยบาย 30@30 ซึ่งในระยะที่ 2 ปี 2566-2568 จะพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มีเป้าหมายการผลิตรถ EV ประเภทรถยนต์นั่งและรถกระบะ 225,000 คัน รถจักรยานยนต์ 360,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 18,000 คัน ภายในปี 2568 รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่ เพื่อตอบสนองการผลิตในประเทศ จึงมั่นใจว่ากระแสการใช้รถ EV นับวันจะยิ่งมากขึ้นเป็นลำดับ
นอกจากนี้ยังมองว่ายานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ จะมีโอกาสเติบโตมากขึ้นด้วย เนื่องจากในปี 2567 คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) มีมติผลักดันการใช้มาตรฐานไอเสีย ยูโร 5 ภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อช่วยลดการปล่อยสารอันตรายออกจากเครื่องยนต์ของรถยนต์ อาทิ คาร์บอนมอนนอกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน และปริมาณสารมลพิษอนุภาคหรือฝุ่น PM 2.5 ส่งผลให้รถบรรทุกและรถบัส ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม ได้แก่ ตัวกรองเขม่าดีเซลในเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งจะทำให้รถน้ำมันดีเซลหรือรถพลังงานไฟฟ้ามีราคาไม่ต่างกันมาก ในขณะที่รถพลังงานไฟฟ้าจะช่วยประหยัดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและสร้างความคุ้มทุนได้มากกว่า
ซีอีโอ NEX กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ NEX ตั้งเป้ารายได้ในปี 2566 อยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ไม่ต่ำกว่า 6,000 คัน ทั้งรถบัสไฟฟ้า รถหัวลากไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า (e-Truck) นอกจากนี้ยังจะเปิดตัวโปรดักส์ยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ 5 ประเภท ได้แก่ รถบรรทุกไฟฟ้า 6 ล้อ, รถบรรทุกไฟฟ้า 10 ล้อ, รถตู้ไฟฟ้า, รถกระบะไฟฟ้า และรถทัวร์ที่เป็นไฟฟ้า ซึ่งจะมาช่วยสนับสนุนยอดขายให้รายได้โตขึ้นตามที่ตั้งเป้าไว้ ขณะเดียวกันยังเดินหน้าแผนขยายโรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้าแห่งที่ 2 เนื่องจากในส่วนของโรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ บริษัท แอ๊บโชลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) ในพื้นที่อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 9,000 คันต่อปี ในขณะที่คำสั่งผลิตเกินขีดความสามารถแล้ว จึงจำเป็นต้องขยายโรงงานแห่งที่ 2 เพิ่ม
สำหรับความคืบหน้าการสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งที่ 2 จะก่อสร้างในพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรม บลูเทคซิตี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเป็นการลงทุนร่วมกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท และช่วงกลางปี 2566 น่าจะเริ่มตอกเสาเข็มก่อสร้าง พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 2568 เพื่อให้สามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตยานยนต์ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าได้ทันที โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50,000 คันต่อปี ซึ่งจะทำให้ในปี 2568 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รวมประมาณ 60,000 คันต่อปี