ผู้ผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในปีนี้ส่อแววจะไปได้ดี โดยมียอดการผลิตเพิ่มขึ้นถึงแม้สถานการณ์ตลาดวงการรถใหญ่และแรงกระตุ้นหนุนที่โครงการของภาครัฐยังเงียบไปบ้าง แต่ตลาดก็ยังพอไปได้ แต่สำหรับผู้ผลิตอย่าง PANUS ที่ไม่เคยหยุดนิ่งเปิดเกมเสิร์ฟฟาดยอดขายไตรมาสแรกหรู 1,169 คัน มากกว่าปีที่ผ่านมาและพร้อมดันสินค้าใหม่สู่ตลาด
และจะเป็นใครไม่ได้ผู้ที่จะให้คำตอบให้กระจ่างแจ้งกับผลงานไตรมาสแรกที่เกินคาดกับหญิงเหล็กสุดแกร่ง “พี่หนุ่ย” คุณณัชชา วงศ์คำภู ผู้จัดการฝ่ายการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด เปิดเผย ถึงยอดขายไตรมาสแรกในปีนี้ว่า โดยสำหรับปีนี้ทาง PANUS ยังคงวางเป้ารวมไว้สูงขึ้นจากปีที่ผ่านจำนวน 3,500 คัน โดยในเดือนมกราคมเราสามารถปิดยอดได้ที่ 400 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับเดือนเดียวและเดือนกุมภาพันธุ์เราสามารถจบได้ที่กว่า 500 คัน ซึ่งเป็นประวัติการณ์จนมาจบในไตรมาสแรกของปี 2561 อยู่ที่ 1,169 คัน โตกว่าไตรมาสแรกในปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจกับสัญาญาณเชิงบวกในปีนี้ และสินค้าที่มียอดขายมากที่สุดและเป็นเบอร์หนึ่งตลาดคือกึ่งพ่วงก้างปลาและพื้นเรียบเช่นเคย
ทีมงานที่แข็งแกร่ง สู่ความสำเร็จ
โดยปัจจัยหลักของยอดขายในไตรมาสแรกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งนี้คือการให้บริการหลังการขายที่แข็งแกร่งของเราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นกับโครงการ PANUS S Plus ที่ขยายสถานที่บริการต่อเนื่องทุกปี และฝ่ายขายที่แข็งแกร่งที่สามารถทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นและไว้ใจเลือกใช้แบรนด์ของ PANUS ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่ารวมถึงสินค้าใหม่ที่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ดัมพ์เกษตร 7 เมตร เจาะกลุ่มท่าเรือ
สินค้าในปีนี้ที่สามารถเริ่มทำตลาดได้เพิ่มมากขึ้นและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดคือ รถบรรทุกดัมพ์เกษตรแบบ 7 เมตร ที่สามารถขนส่งสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ได้เลย ถ้าเกิดไม่มีงานประเภทสินค้าเกษตรก็สามารถขนส่งงานทั่วไปที่ใช้ตู้ขนาด 20 ฟุต ได้ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามาก สำหรับสินค้าประเภทนี้ปีที่แล้วขายได้เกือบ 200 คัน แต่สำหรับลูกค้ารายนี้ในปีนี้อยู่ที่ 32 คัน โดยทางลูกค้าอยากพัฒนาสายงานประเภทนี้ ซึ่งถ้ามีการเรียกใช้งานรถประเภทนี้ บริษัท อ้วนคอนเทนเนอร์ จำกัด ก็สามารถมีกำลังแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้ดียิ่งขึ้น และการที่ลูกค้ารายนี้เชื่อมั่นและไว้ใจในศักยภาพด้านการผลิตรถประเภท นี้จึงทำให้ บริษัท อ้วนคอนเทนเนอร์ จำกัด มีฝูงรถประเภทหางดัมพ์เกษตร 7 เมตร มากที่สุดในท้องตลาดขณะนี้ และเป็นการยกระดับมาตรฐานการขนส่งช่วยให้ผู้ว่าจ้างประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาการขนส่งตู้สินค้าจะลดลงเท่าตัว ใช้เวลาลงตู้สินค้าเพียง 10 นาทีต่อตู้เท่านั้น
ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดรถประเภทนี้ยังไม่มียอดการสั่งผลิตมากเท่าไหร่ แต่เมื่อปีที่ผ่านมาและในปีนี้มียอดการสั่งผลิตสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงได้มีแผนเชิงรุกนำสินค้าประเภทนี้เจาะกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่งท่าเรือมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสินค้ารุ่นนี้สามารถวิ่งงานได้สองแบบด้วยกันจึงมีความคุ้มค่าสูง ที่ผู้ประกอบการจะลงทุนซื้อสินค้าประเภทดัมพ์รุ่นนี้มาใช้งานเพิ่มมากขึ้น