เทคโนโลยี ‘ฟาสต์ชาร์จ’ จุดเปลี่ยน ‘จีน’ สู่ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

ในปัจจุบันอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในประเทศจีนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของจีน ทำให้ อุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ หรือซัพพายเออร์ที่สนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่นี้มีการเติบโต และพัฒนาไปด้วยเช่นกัน

จากการรายงานล่าสุดของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ประเทศจีน รายงาน ว่าหลังจบไตรมาสที่ 2 ของปี2564 ประเทศจีนได้ผลิตแท่นชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบต่างๆ ทั้งหมด 1.94 ล้านหน่วย ประกอบแท่นชาร์จสาธารณะจำนวน 9.23 แสนหน่วย แท่นชาร์จส่วนบุคคลจำนวน 1.02 ล้านหน่วย และจุด เปลี่ยนแบตเตอรี่ไฟฟ้าจำนวน 716 แห่ง

จึงแสดงให้เห็นว่าในขณะนี้ประเทศจีน คือ ประเทศที่มีเครือข่ายการชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่พัฒนา อุตสาหกรรมแบตเตอรี่และ อุปกรณ์ชาร์จไฟต่างๆ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญจึงมีการพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกัน

โดยในปี2564 นี้ยอดขาย รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2564 มียอดจำหน่ายแล้วกว่า 2.15 หมื่น ล้านคัน เพิ่มขึ้น 1.9 เท่าเมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นร้อยละ 11.6 (YoY) ประเทศจีนได้มีการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการก่อสร้างจุดชาร์จแบตเตอรี่จำนวนมาก เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา การขาดแคลนแหล่งชาร์จไฟ และช่วยลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างขับขี่

ด้วยเหตุนี้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ประเทศจีนมีนโนบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น นโยบายส่งเสริม อุตสาหกรรมแบตเตอรี่และอุปกรณ์อื่นๆ ให้มีการพัฒนาไปพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ มีการใช้เทคโนโลยี ต่างๆ มาพัฒนาระบบการชาร์จแบตเตอรี่ที่รวดเร็วยิ่งขึ้นหรือฟาสต์ชาร์จ (fast charge) จนในขณะนี้เทคโนโลยีฟาสต์ชาร์จ กลายเป็นทิศทางการแข่งขันของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าในจีน

ในขณะเดียวกันยังมีการสนับสนุนการก่อตั้งสถานีชาร์จไฟแบบ ฟาสต์ชาร์จให้มีจำนวนมากขึ้น มีการสร้างแท่นชาร์จไฟความเร็วสูง ระยะเวลาการชาร์จเฉลี่ยต่อหนึ่งครั้งอยู่ที่ 14.1 นาที อีกทั้งยังมีรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นได้นำเทคโนโลยีฟาสต์ชาร์จเป็นจุดขาย และเมื่อวันหยุดยาวชาติจีนที่ผ่านมา ทางหลวงบางแห่งในประเทศจีน มีการต่อคิวชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ายาวนาน 2 ถึง 4 ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่า หากมุ่งเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่อย่างเดียว และละเลยการพัฒนาเรื่อง แบตเตอรี่ หรือการบริการที่เกี่ยวข้องอย่างจุดชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า จะเป็นปัญหาที่ ตามมาในอนาคต

อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการใช้งานและการเดินทางของผู้ขับขี่ ในปัจจุบันประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่ มีนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด คุณภาพสูง เช่น โซล่าเซลล์พลังงานลม และรถยนต์พลังงานใหม่ เป็นต้น

โดยมี จุดประสงค์เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในอากาศ และเพื่อบรรลุเป้าหมายการจำกัดการเพิ่มขึ้นของ อุณภูมิของโลกไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส ตามข้อตกลงของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาส หรือ COP 26 ที่ได้ลงนามทำข้อตกลงเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาซึ่งอุตสาหกรรม ยานยนต์พลังงานใหม่นี้จะเป็นส่วนช่วยสำคัญอีกแนวทางหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายนี้

ที่มา : https://t.ynet.cn/baijia/31668004.html

จัดทำโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว