นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่า ได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาให้มีความทันสมัย เพื่อยกระดับการให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดเชื่อมต่อ รถ ราง เรือ ส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาให้เป็นมากกว่าท่าเรือโดยสาร โดยออกแบบสถาปัตยกรรมให้มีความสวยงาม มีโครงสร้างที่มั่นคง แข็งแรง เหมาะสมต่อการใช้งาน เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนที่สัญจรทางน้ำ และการเดินเรือ ซึ่งขณะนี้การพัฒนาท่าเรือทั้ง 3 ท่า มีความล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากขาดแคลนแรงงานในการก่อสร้าง ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วในบางส่วน โดยแบ่งรายละเอียดออกเป็น ดังนี้
1.ท่าเรือท่าช้าง ผลการดำเนินงานสะสม คิดเป็น ร้อยละ 65 ช้ากว่าแผนร้อยละ 35
2.ท่าเรือท่าเตียน ผลการดำเนินงานสะสม คิดเป็น ร้อยละ 52 ช้ากว่าแผนร้อยละ 47
3.ท่าเรือราชินี ผลการดำเนินงานสะสม คิดเป็น ร้อยละ 40 ช้ากว่าแผน ร้อยละ 20
![](https://www.transtimenews.co/wp-content/uploads/2021/06/S__2678850-1024x682.jpg)
ทั้งนี้ อธิบดีกรมเจ้าท่า กำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการจัดหาแรงงานมาเพิ่มเติม และจัดทำแผนเร่งรัดงานในส่วนที่เหลือทั้ง 3 ท่าเรือ ให้แล้วเสร็จตามแผนที่ได้กำหนด ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 พร้อมเน้นย้ำการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด และให้ประสานหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันรณรงค์ในการรักษาทำความสะอาดบริเวณโดยรอบท่าเรือให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย รวมถึงเข้มงวดป้องกันการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนอีกด้วย