เมื่อถามถึงโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-ticket) ที่ทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นำมาติดตั้งบนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2,600 คัน โดย บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญในการนำระบบดังกล่าวมาใช้บนรถโดยสารประจำทาง เป็นผู้ชนะการประกวดราคา และได้ลงนามสัญญาเช่าระบบ E-ticket ระหว่าง ขสมก. กับ บริษัท ช ทวี เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา
ว่ากันว่า ระบบ E-ticket ที่นำมาใช้บนรถโดยสารประจำทางของ ขสมก.นั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บค่าโดยสารและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรสำหรับพนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก. โดยประชาชนผู้ใช้บริการจะได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง ด้วยการใช้บัตร E-ticket ใบเดียวสำหรับเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้ทุกระบบ รวมทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าระบบซ้ำซ้อน
เมื่อวันเวลาผ่านไปไม่ถึงขวบปี ขสมก.ได้แจ้งยกเลิกการใช้งานระบบ E-Ticket ที่ติดบนรถโดยสาร ขสมก. ถึงแม้ว่าทางบริษัท ช ทวี จะดำเนินการติดตั้งจนครบหมดแล้ว โดยอ้างว่าเครื่องไม่เสถียรและระบบใช้งานไม่ได้จริง ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้แก่ บริษัท ช ทวี มูลค่าสูงถึง 1.6 พันล้านบาท
เรื่องจึงเข้าสู่ชั้นศาล โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา คุณสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่อง แจ้งเรื่องบริษัทฯ ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐต่อศาลปกครอง กรณีบอกเลิกสัญญาเช่าระบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket)
โดยระบุว่า ตามที่บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ได้ทำสัญญาให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket กับองค์การขนส่ง (ขสมก.) ซึ่งได้ติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และ Cash-Box บนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2,600 คัน มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 5 ปี มูลค่าโครงการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665,000,000 บาท ต่อมาบริษัทฯ ได้รับหนังสือจากหน่วยงานรัฐขอยกเลิกการทำสัญญาฯ ดังกล่าว มูลค่าโครงการที่บอกยกเลิกรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665,000,000 บาท
โดยเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 บริษัทฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมายผู้เชี่ยวชาญ ยื่นคำฟ้องหน่วยงานรัฐ ณ ศาลปกครองกลาง ดดีหมายเลขดำที่ 1998/2562 ระหว่างบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ถูกฟ้องคดี เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายหรือชดใช้ค่าการงาน และค่าเช่าที่ควรได้รับแก่บริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 1,556,074,766.36 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยห้าสิบหกล้านเจ็ดหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยหกสิบหกบาทสามสิบหกสตางค์) (ราคาไม่รวมภาษี) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันชำระแล้วเสร็จ และให้คืนหลักประกันสัญญา พร้อมค่าธรรมเนียมที่จะเกิดจากการคืนหลักประกันล่าช้าดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ถ้ามีความคืบหน้าประการใด บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
…ฟันเหล็ก