นางสาวกัลยาณี แพรอาภรณ์ รองประธานกรรมการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ผดุงฤทธิ์ขนส่ง จำกัด เปิดเผยว่าภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรโดยแต่งตั้งผู้บริหารรุ่นใหม่ซึ่งเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 3 จึงได้กำหนดนโยบายที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ภายในองค์กรมากขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งรถบรรทุกที่จะให้บริการลูกค้า ถือเป็นส่วนสำคัญที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทได้ดีที่สุด
“ตอนนี้ ในฟลีทรถเรามีรถบรรทุกทั้งหมด 365 คัน โดยเรามีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะไม่ใช้รถยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งโดยเฉพาะ และช่วงที่ทีมผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาปรับปรุงการบริหารองค์กร เราจึงตัดสินใจที่จะลองใช้รถที่มีเทคโนโลยีที่สูงขึ้นและมีความปลอดภัยมากขึ้น เราจึงสั่งรถหัวลากวอลโว่ ทรัคส์ ซึ่งเราเห็นความแตกต่างจากรถที่เรามีอยู่มาก จึงตัดสินใจสั่งเพิ่มอีก 25 คัน รวมรถหัวลากวอลโว่ ทรัคส์ทั้งล็อตเก่าและใหม่เป็น จำนวน 42 คันในฟลีท” นางสาวกัลยาณี กล่าว
บริษัท ผดุงฤทธิ์ขนส่ง จำกัด ดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าหลากหลายมานานกว่า 23 ปี ซึ่งปัจจุบันเน้นการให้บริการขนส่งกากน้ำตาล และแอลกอฮอล์ ซึ่งปริมาณกากน้ำตาลในปีที่ผ่านมามีผลผลิตมากถึง 130 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 90 ล้านตัน ทำให้ความต้องการใช้รถบรรทุกขนส่งสินค้าเหล่านี้มีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เมื่อรวมกับความชำนาญของเราที่อยู่ในธุรกิจการขนส่งกากน้ำตาลมาเป็นเวลานาน ทำให้เรามั่นใจว่าเราจะสามารถเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นจุดยืนของคณะผู้บริหารของเราที่ต้องการจะสร้างองค์กรให้เจริญเติบโตแบบยั่งยืน เราไม่ได้เน้นที่อัตราการเจริญเติบโต แต่เราจะเน้นความยั่งยืนของการเติบโต”
นางสาวกัลยาณี กล่าวเพิ่มเติมว่าเพื่อตอบสนองความต้องการในนโยบายการเติบโตแบบยั่งยืน บริษัทฯ ได้พยายามกระจายฐานลูกค้าออกไปจากการให้บริการขนส่งกากน้ำตาลและแอลกอฮอล์ไปยังสินค้าประเภทอื่น ๆ เช่นวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งขณะนี้สัดส่วนธุรกิจการขนส่งของเหลวและของแข็ง อยู่ในอัตรา 50:50 และสอดคล้องกับการลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้าของเราที่กระจายอยู่ทั่วประเทศได้แก่ ปทุมธานี ลำปาง สระบุรี และนครพนม
อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับโครงสร้างองค์กรแล้ว ทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในงานบริการยิ่งขึ้น ส่งผลต่ออัตราการเติบโตของธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 20% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราเติบโตที่เพิ่มขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับการดำเนินธุรกิจตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
นางสาวกัลยาณี กล่าวเพิ่มเติมว่าการตัดสินใจใช้รถวอลโว่ ทรัคส์ มีผลโดยตรงต่อการสรรหาพนักงานขับรถ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในภาวะการขาดแคลนพนักงานขับรถบรรทุกที่มีคุณภาพมาก
“อยากจะบอกว่าเป็นผลพลอยได้จากการซื้อรถวอลโว่ ทรัคส์ เพราะเราไม่ต้องประกาศหาพนักงานขับรถเลย เพียงแค่ในวงการรู้ว่าเราสั่งรถวอลโว่ ทรัคส์ เพิ่ม พวกเขาก็มาสมัครงานกับเรา ก็ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้คัดเลือกพนักงานขับรถที่มีคุณภาพมาเสริมทีมงานของเรา และยังถือเป็นโอกาสที่จะส่งเสริมพนักงานที่มีอยู่ของเราให้มาขับรถวอลโว่ ทรัคส์ ด้วย ซึ่งพวกเขายินดีอย่างมากที่จะได้ขับรถที่มีคุณภาพสูง”