กรมทางหลวง(ทล.) สรุปอุบัติเหตุทางหลวงเดือนก.ค. 2568 มีผู้เสียชีวิต 115 คน บาดเจ็บ 968 คน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินข ทล. เสียหาย 12 ล้านบาท ลดลง 22% ย้ำสาเหตุหลักขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด รถกระบะบรรทุก 4 ล้อ คือยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ วอนผู้ใช้ทางขับขี่ด้วยความระมัดระวัง พักผ่อนให้เพียงพอ-ตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางทุกครั้ง
กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม โดยสำนักอำนวยความปลอดภัย สรุปข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศประจำเดือนกรกฎาคม 2568 จากการรายงานอุบัติเหตุทางระบบ HAIMS พบว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของ ทล. 1,233 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 115 คน บาดเจ็บ 968 คน รถที่เกิดอุบัติเหตุ 1,951 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของ ทล. เสียหายประมาณ 12 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุในช่วงเดียวกันกับปี 2567 จำนวนอุบัติเหตุลดลง 22% ผู้เสียชีวิตลดลง 36% บาดเจ็บลดลง 11% รถที่เกิดอุบัติเหตุลดลง 19% สาเหตุหลักมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด 69% (851 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ หลับใน 8% (99 ครั้ง) และการตัดหน้าระยะกระชั้นชิด 6% (79 ครั้ง)
สำหรับลักษณะการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรง 66% (811 ครั้ง) ทางโค้ง 13% (158 ครั้ง) และทางแยกระดับเดียวกัน 6% (79 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 37% (723 คัน) รถยนต์นั่ง 31% (601 คัน) รถจักรยานยนต์ 10% (197 คัน) และรถบรรทุกมากกว่า 10 ล้อ (รถพ่วง) 9% (184 คัน) เมื่อจำแนกตามพื้นที่การเกิดอุบัติเหตุพบว่า เส้นทางในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 19% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18% และภาคเหนือ 17% นอกจากนี้ ทางหลวงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ทล.338 อรุณอมรินทร์ – พุทธมณฑลสาย 4 จำนวน 60 ครั้ง
ทั้งนี้ ทล. มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะทุกประเภทที่วิ่งบนทางหลวง พร้อมทั้งให้แขวงทางหลวงตรวจสอบความปลอดภัยถนน ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งในช่วงฤดูฝนขอความร่วมมือผู้ใช้ทางขับขี่ด้วยความระมัดระวัง พักผ่อนให้เพียงพอและตรวจเช็กสภาพรถก่อนการเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้ร่วมทาง รวมถึงป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผลอีกด้วย หากประชาชนผู้ใช้ทางต้องการแจ้งอุบัติเหตุ หรือสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน ทล. โทร. 1586 สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง โทร. 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง
