“บีเอส เอ็กซ์เพรส”เผยภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรกยังสามารถฝ่าด่านไปได้ฉลุยท่ามกลาง“ภาวะเศรษฐกิจหดตัว-วิกฤติพลังงาน-ภาวะเงินเฟ้อ”รุกเปิดบริการใหม่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแอปฯBS Market เน้นกลุ่มสินค้าจำเป็นพื้นฐานอุปโภคบริโภค ชี้กระแสตอบรับดีชูจุดเด่น“จับจ่ายง่ายสะดวก-ส่งฟรี-รับสินค้าเร็ว”ปลื้ม!BS-Thaipost และ BS-CLM ยังเติบโตต่อเนื่อง เล็งขยายความร่วมมือการรถไฟฯเปิดบริการขนส่งพัสดุ-สินค้าแบบ“เหมาขบวน”สวนทิศทางราคาน้ำมันขาขึ้น
ดร.ชุมพล สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอส เอ็กซ์เพรส 2020 จำกัด เปิดเผยถึงมุมมองส่วนตัวต่ออัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ว่าไม่ดีเท่าที่ควรหากลองเทียบเคียงดูหลังจากเกิดวิกฤติโควิดตั้งแต่ปลายปี63จนมาถึงปี65 จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะดีขึ้นจากการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด ทว่า ก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าที่ควรจะเป็นสืบเนื่องจากฐานใหญ่กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ อันเป็นผลมาจากการรีดพลังภายในสู้และผ่านวิกฤติโควิดมาร่วม 2 ปีกว่าทำให้กำลังซื้อในภาพรวมหดตัวลงตามไปด้วย
“แม้จะมีการกลับมาเปิดประเทศในรอบล่าสุดก็ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่กำลังซื้อหลักก็ยังไม่ฟื้นตัวกลายเป็นว่าไม่ถึงกับคึกคักมากนัก ขณะที่ภาคธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ค่อนข้างซบเซาลงไปตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แม้อาจจะดูคึกคักช่วงที่โควิดเข้ามาระลอกแรกจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่กักตัวอยู่บ้านสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ แต่พอมาถึงปี65หากไปดูลึกๆจริงแล้วพฤติกรรมผู้บริโภคดังกล่าวก็ยังคงอยู่เนื่องจากเป็นเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่แต่เริ่มขยับห่างจากสินค้าฟุ่มเฟือยมาเน้นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันมากขึ้นแทน”
ดร.ชุมพล ระบุอีกว่ายิ่งมาผสมแรงบวกกับปัญหาเงินเฟ้อ วิกฤติพลังงาน และสินค้าราคาแพงเข้าไปด้วยก็ยิ่งไปกระทบซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมให้หดตัวลง ตลอดถึงกระเป๋าเงินประชาชนหนักเข้าไปอีก นอกจากนี้ ภาวะเงินเฟ้อก็เริ่มสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการมากขึ้น เพราะจะตามมาด้วยการปรับอัตราดอกเบี้ยไปกระทบต้นทุนและภาระหนี้สินกับสถาบันการเงิน
ฝ่าด่านครึ่งปีแรกฉลุย!เปิดบริการใหม่ BS Market
ขณะที่ภาพรวมการประกอบการบีเอส เอ็กซ์เพรสฯหลังผ่านครึ่งปีแรกนั้น ดร.ชุมพล ได้ฉายภาพให้เห็นว่าก็ยังสามารถขับเคลื่อนและประคับประคองตัวไปได้ เพราะเรามีการกระจายแหล่งรายได้มาจากหลายๆกลุ่มธุรกิจในเครือจากฐานลูกค้าที่หลากหลาย กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์ร้านค้าส่งร้านค้าปลีกก็ทรงตัวและปรับตัวลงเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ส่วนกลุ่มที่เป็นเอ็กซ์เพรสก็ยังสามารถเดินหน้าไปได้แต่ไม่ถึงเติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนช่วงแรกๆ นอกจากนี้เรายังกระจายความเสี่ยงไปกับกลุ่มลูกค้าเฉพาะมากขึ้น เช่น การให้บริการขนส่งผลไม้ตามฤดูกาลอย่างทุเรียนก็เติบโตและค่อนข้างไปได้ดีตามช่วงจังหวะเวลาของฤดูกาล
“ส่วนการเปิดตลาดเจาะกลุ่มอีคอมเมิร์ซผ่านแพลตฟอร์มของเราเอง คือ BS Market ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดีและมีแนวโน้มที่ดีโดยอาศัยจุดแข็งที่เรามีคือผู้ให้บริการด้านการขนส่งและคลังสินค้าให้กับร้านค้าส่ง-ปลีก อีกทั้งเรายังเน้นสินค้าจำเป็นพื้นฐานต่อการดำรงชีพที่หลากหลายทางเลือกในราคาไม่แพงและให้บริการรับส่งฟรี(ตามเงื่อนไข)จึงทำให้เราสามารถบริหารต้นทุนในราคาที่แข่งขันได้ ตลอดถึงคอนเนคชั่นที่เราวิ่งงานให้บรรดาซัพพลายเออร์เจ้าของสินค้าต่างๆก็ทำให้เราสามารถเข้าถึงแหล่งสินค้าในราคาที่สามารถแข่งขันได้ ส่วนกลุ่มลูกค้าเราก็กระจายไปทั้งกลุ่มออนไลน์และออฟไลน์ด้วยคอนเซ็ปต์จับจ่ายง่ายสะดวกและรับสินค้าในเวลาอันรวดเร็วสั่งวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้รับสินค้าแล้ว”
นอกจากนี้ ดร.ชุมพล ยังได้ระบุถึงการบริการความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยอย่าง BS-Thaipost และ BS-CLM ที่ให้บริการรับส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมาว่าถึงเวลานี้ก็ยังเป็นการบริการที่ได้รับการตอบรับด้วยดีจากลูกค้าที่หลากหลายและมีอัตราการเติบโตไปได้เรื่อยๆ ซึ่งทั้ง 2 บริการเราไม่ได้เน้นหรือเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดียวโดยเฉพาะ เรามีการขยายไปยังกลุ่มลูกค้าหลากหลายในความต้องการบริการที่แตกต่าง ทำให้ความร่วมมือด้วยสินค้าและบริการต่างๆสามารถเติบโตไปด้วยกัน
เล็งขยายความร่วมมือการรถไฟฯเปิดบริการขนส่งสินค้าแบบเหมาขบวน
สำหรับประเด็นโครงการความร่วมมือกับการรถไฟฯเปิดให้บริการขนส่งพัสดุและสินค้ารายย่อยที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาโดยนำร่องเส้นทางภาคใต้กรุงเทพ-หาดใหญ่นั้น ดร.ชุมพล ได้ขยายความประเด็นนี้ว่าก็ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือ ซึ่งการรถไฟฯให้บริการขนส่งสินค้าเป็น 2 ลักษณะด้วยกัน อย่างแรกคือการบริการแบบเหมาขบวน อย่างที่สองคือบริการรายชิ้น ซึ่งที่เพิ่งให้บริการเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาเป็นการให้บริการขนส่งแบบรายชิ้นเริ่มจากสถานีรับส่งสินค้าพหลโยธิน (ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ ด้านตรงข้ามตลาด อตก.)ปลายทางหาดใหญ่ผ่านสถานีชุมพร สุราษฎร์ธานี และชุมทางทุ่งสง โดยจะเปิดรับบริการขนส่งพัสดุหรือสินค้ารายชิ้นจากชาวบ้านที่สามารถมาส่งได้ตามสถานีจุดบริการต่างๆที่เขาเปิดให้บริการ
“ในส่วนของบีเอสเอ็กซ์เพรสฯที่มีส่วนความร่วมมือมากับการรถไฟฯก็สามารถนำสินค้าไปฝากส่งกับการรถไฟฯได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการบริการทางเลือกที่เราให้บริการกับลูกค้าแม้จะมีปริมาณสินค้าที่ไม่มากนัก แต่สิ่งที่เรากำลังมองคือการขยายความร่วมมือในลักษณะเหมาทั้งขบวน ซึ่งเวลานี้เรากำลังอยู่ช่วงทำใบเสนอราคากับลูกค้าก็มีโอกาสเป็นได้สูงเพราะเดิมทีเมื่อครั้งน้ำมันไม่แพงการขนส่งด้วยรถบรรทุกเป็นทางเลือกที่ดี แต่เวลานี้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นผู้ประกอบการรถบรรทุกก็มีการปรับค่าขนส่งกับผู้ว่าจ้าง ขณะที่การรถไฟฯมีนโยบายลดภาระค่าครองชีพประชาชน และผู้ประกอบการ ร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงเอสเอ็มอีมีต้นทุนการขนส่งที่ถูกลง จึงทำให้บริการที่การรถไฟฯนำร่องเปิดให้บริการนี้เริ่มเป็นที่น่าสนใจมากขึ้น”
อย่างไรก็ดี ดร.ชุมพล ย้ำปิดท้ายว่าเราจึงเริ่มทำใบเสนอราคาแจ้งให้กับลูกค้าได้ทราบรายละเอียดแล้วหากลูกค้าตอบรับกลับมาดี คราวนี้ก็จะเป็นการขยายความร่วมมือกับการรถไฟฯในลักษณะการขนส่งพัสดุ-สินค้าที่เป็นเหมาขบวนในอันดับความร่วมมือถัดไปจากนี้ นอกจากเส้นทางสายใต้แล้วก็ยังมีเส้นทางภาคอีสานจากอุบลฯมาแหลมฉบังที่การรถไฟฯจ่อเปิดให้บริการเร็วๆนี้
“ต้องยอมรับว่าการขนส่งทางรางถือเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ ประหยัดพลังงาน มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นจุดแข็งเดิมอยู่แล้ว หากการรถไฟฯสามารถขยายไปยังเส้นทางอื่นๆได้ครอบคลุมทุกภูมิภาคก็จะเป็นการตอบโจทย์การขนส่งที่ตรงจุดท่ามกลางปัญหาราคาน้ำมันแพงในเวลานี้”