เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จยอดจดทะเบียนรถบรรทุกเติบโตสูงสุดในรอบ 9 ปี โดยมียอดรถจดทะเบียนในรอบ 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.) ปี 64 เติบโดขึ้นกว่า 97% จากปี 63 ปลี้มได้รับกระแสตอบรับและความนิยมดีขึ้นต่อเนื่องหลังเริ่มตีตลาดในไทยครั้งแรกในปี 55 ตอกย้ำความเชื่อมั่นอีกครั้งด้วยทำการตลาดในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 62 ลั่นมีแผนนำรุ่นอื่นๆขยายไลน์รถบรรทุกในอนาคตหวังเป็นตัวเลือกให้ผู้ประกอบการไทยได้เลือกสรรรถบรรทุกคุณภาพสูงมาตรฐานยุโรปตอบโจทย์การใช้งานทางธุรกิจและขยายกิจการ
“เรารู้สึกยินดีและภูมิใจในความสำเร็จในครั้งนี้ของเอ็ม เอ เอ็น อย่างมาก และขอขอบคุณลูกค้าเอ็ม เอ เอ็น ทั้งผู้ประกอบการและคนขับทุกท่านที่ให้การตอบรับและไว้วางใจในรถบรรทุกของเอ็ม เอ เอ็น โดยที่ผ่านมาเราใส่ใจและให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานของรถบรรทุก ตั้งแต่กระบวนการผลิต พัฒนา การนำเข้าทั้งคันแบบ CBU 100% จากประเทศเยอรมนี ไปจนถึงการส่งรถบรรทุกถึงมือลูกค้าทุกคน และนอกจากนี้เรายังยึดมั่นในมาตรฐานบริการหลังการขาย เพื่อมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้า เพราะเราเชื่อว่ารถบรรทุกคุณภาพสูงของ เอ็ม เอ เอ็น ซึ่งมาพร้อมกับบริการหลังการขายที่ครอบคลุมเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างและขยายธุรกิจขนส่งของลูกค้าผู้ประกอบการ พร้อมไปกับการช่วยยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับคนขับระหว่างเดินทางขนส่งสินค้า และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอ็ม เอ เอ็น จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าผู้ประกอบการทุกท่านสู่ความสำเร็จต่อไป” คุณจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการ เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย กล่าว

ปัจจุบันเอ็ม เอ เอ็น มีผลิตภัณฑ์รถบรรทุกหัวลากที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ MAN TGS 6×4 360 แรงม้า TGS 6×4 400 แรงม้า และ TGS 6×4 440 แรงม้า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 4.2 ล้านบาท และมีแผนในอนาคตที่จะนำเข้ารถบรรทุกหัวลากรุ่นอื่นๆจากเยอรมนี เพื่อขยายไลน์รถบรรทุกและเป็นตัวเลือกให้ผู้ประกอบการไทยได้เลือกสรรรถบรรทุกคุณภาพสูงมาตรฐานยุโรปเพื่อตอบโจทย์การใช้งานทางธุรกิจและขยายกิจการ

นอกจากนี้เอ็ม เอ เอ็น ยังตอบโจทย์ประสบการณ์การใช้งานรถบรรทุกให้แก่ลูกค้าเอ็ม เอ เอ็น ด้วยบริการดีๆมากมาย อาทิ MAN PROFIDRIVE บริการฝึกอบรมเพิ่มทักษะการขับขี่ให้กับคนขับรถบรรทุกเพื่อสร้างความมั่นใจและสามารถใช้งานรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น ได้อย่างประหยัด คุ้มค่า เต็มประสิทธิภาพ รวมถึง บริการหลังการขายที่ครอบคลุมและครบวงจรต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ฟรีสัญญาบริการบำรุงรักษา COMFORT เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 300,000 กิโลเมตร ซึ่งมาพร้อมกับ บริการ Onsite Service ซ่อมบำรุงรักษาตามสัญญาบริการให้ถึงที่ทั่วประเทศไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 24 เดือนไม่จำกัดระยะทาง