องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชะลอการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถปรับอากาศรุ่นใหม่ ที่จะเริ่มใช้กับรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 100 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2561 ออกไปก่อน จนกว่าเรื่องดังกล่าว จะผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางอีกครั้ง
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่ ขสมก.ได้ประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสารรถปรับอากาศรุ่นใหม่ ทั้งรถโดยสารที่นำเข้ามาวิ่งให้บริการแล้ว และรถโดยสารที่กำลังทยอยเข้ามาเพิ่มในอนาคต ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ที่กำหนดให้รถโดยสารปรับอากาศ ที่วิ่งให้บริการประชาชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 13 – 25 บาท
โดยจะเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2561เป็นต้นไป เนื่องจากปัจจุบัน ขสมก.ได้นำรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ (Low Floor) รุ่นใหม่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) มาให้บริการประชาชน ซึ่งรถโดยสารดังกล่าวมีการออกแบบในลักษณะ Universal Design พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่ กล้อง CCTV, ระบบ GPS, ทางลาดสำหรับเข็นรถวีลแชร์ เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการทุกประเภท ทั้งคนพิการและผู้สูงอายุ สามารถใช้บริการรถโดยสารได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนรถโดยสารเก่าทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ขสมก.ยังคงใช้อัตราค่าโดยสารราคาเดิม
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถปรับอากาศรุ่นใหม่ จะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางอีกครั้ง ขสมก.จึงขอชะลอการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถปรับอากาศรุ่นใหม่ดังกล่าวออกไปก่อน